โทนี่ รากแก่น รับหวงภรรยามาก ตั้งใจถ่ายภาพ แก้ว จริญญา ในชุดว่ายน้ำเบลอทั้งเซ็ต พร้อมประกาศขายบ้านหรูพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เขาใหญ่

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 25 ก.พ. 2564 โทนี่ รากแก่น ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานเปิดตัว Mi 11 สุดยอดสมาร์ทโฟนเพื่อคนรักหนัง ณ ห้อง Ballroom ชั้น 4 โรงแรม Conrad อัพเดตชีวิตหลังแต่งงาน พร้อมเผยทริปสวีตกับภรรยาสาว แก้ว จริญญา ที่ลงรูปภาพอวดหุ่นชุดว่ายน้ำ จนโดนแซวใหญ่ว่าหวงภรรยา เพราะภาพที่ถ่ายออกมาเบลอทั้งเซ็ต

จงใจถ่ายภาพให้ภรรยาเบลอ ไม่อยากให้คนอื่นมองหรือเปล่า? “ไม่ เราไม่ชินกล้อง (หัวเราะ)มองเป็นอาร์ตแล้วกัน งานอาร์ตครับ”

ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นจริงไหม? “ตั้งใจมั้ยหรอ ตั้งใจให้ออกมาสวยแบบนั้น แบบนั้นก็สวยเหมือนกัน แก้วก็อยากได้แบบนั้นด้วย(ยิ้ม)”

 

เขาอาจจะไม่ได้อยากให้ภาพเบลอก็ได้? “ผมตอบให้เลย เขาคงจะอยากได้แบบนั้น”

เซ็ตนั้นมีภาพที่ชัดไหม? “มีครับ แต่ว่าอาจจะสวยไม่เท่าภาพเบลอ ก็เลยไม่ได้ลง”

แก้วได้ถามไหมว่า ลงภาพชัดได้ไหม หรือว่าต้องเบลอ? “จริงๆ เขาก็ถามเป็นพิธีเฉยๆ แหละ ว่าจะลง แต่เราก็แล้วแต่เขาอยู่แล้ว”

ลิมิตความหวงเราขนาดไหน กับการที่เขาจะต้องลงรูปชุดว่ายน้ำ? “ลิมิตความหวง หวงมากอยู่แล้วครับ ผมว่ามันก็เป็นธรรมดาของผู้ชายหลายคนครับ”

ต้องถามไหมว่าเอาชุดไหนใส่กระเป๋าไปบ้าง? “ไม่ถึงขั้นสกรีนชุดครับ แก้วเป็นคนที่ชอบซื้อชุดว่ายน้ำมาก แต่ไม่ค่อยมีโอกาสให้คนอื่นได้เห็น แต่เวลาไปเที่ยวด้วยกันเขาถึงจะใส่ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากจะโชว์อยู่แล้ว”

ทูพีชได้ไหม? “ได้ครับ หมายถึงเขาก็ใส่ปกติของเขา แต่เขาอาจจะไม่ได้ถ่ายลงเฉยๆ ครับ”

ถ้าเป็นทูพีชก็จะถ่ายให้เบลอไปเลย? “ไม่ ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ใช้เสียวหมี่ไง ภาพเลยไม่ชัด (ทริปต่อไปก็ต้องชัดแล้ว) ได้ เดี๋ยวรอเป็นพรีเซ็นเตอร์เขา ได้เห็นภาพชัดแน่นอนครับ”

เรื่องลูก? “คุยกันไว้อาจจะท่องเที่ยวก่อน เดินทางก่อน ดูว่าเหมาะสมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ”

แสดงว่ายังไม่ได้คุยกัน? “มีคุยกันบ้างครับ ทั้งอยากมีและไม่อยากมีครับ มีทั้ง 2 ไอเดีย (แนวโน้มทางไหนมากกว่า) ถ้าเกิดความอยากมีคืออยากเห็นว่าจะน่ารักประมาณไหน ส่วนที่ไม่อยากมีก็คือ เรายังรู้สึกว่าเรายังอยากเดินทางท่องเที่ยว อย่างตอนนี้เรามีไข่ต้ม น้องลูกหมาเล็กๆ ผมเดินทางก็ไม่ใช่ว่าจะไปได้ทุกที่ เราก็ต้องฝากเพื่อนๆ เลี้ยง บางที่พาไปได้ก็ต้องดูแลครับ ก็เหมือนซ้อมไปในตัวนิดนึง แต่เราก็รู้สึกว่าถ้าอย่างนั้นขอเดินทางกันก่อน ยังมีอีกหลายที่ที่อยากจะลุยก่อน”

สายเราเป็นสายท่องเที่ยวด้วยไหม? “ใช่ แล้วเราไปเที่ยวแต่ละที่ค่อนข้างโหดอย่างโรดทริป แล้วก็ย้ายสถานที่ทุกวัน เก็บให้ได้หมดภายในเวลาสั้นๆ ครับ บางทีไปก็ไปนานด้วย ถ้าเกิดว่าเรามีลูกก็ไม่สามารถที่จะทิ้งไว้ได้ครับ”

เคยวาดฝันไหมว่าถ้าจะมีก็เอาน้องไปเที่ยวด้วย? “ก็มีนะครับ แต่ว่าต้องรอโตก่อน อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 3 ขวบ”

อีกนานไหมกว่าจะตัดสินใจมี? “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เร็วๆ นี้เราจะมีโอกาสได้เล่นละครด้วยกันเรื่องหนึ่งที่ในเรื่องราวจะมีเด็กด้วย ก็อาจเป็นโอกาสได้ซ้อมมือนิดนึง(เพื่อจะทำให้เราเปลี่ยนใจ)ใช่ๆ เวลาเราจะเล่นอะไร เราต้องทำความเข้าใจครับ”

พี่แคนดี้ก็เชียร์ให้มีลูก? “ที่บ้านก็อยากเห็นว่าจะน่ารักเป็นยังไง”

ต้องปรับตัวกันเยอะไหม เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา? “คือเราเข้าใจตรงกันว่ามันก็ต้องปรับกันตลอด ไม่ว่าเราจะได้แต่งงานหรือไม่ได้แต่งงาน”

ถามถึงเรื่องบ้านที่เขาใหญ่ เราซื้อเลย? “อ๋อ ใช่ครับ ถามว่าถูกใจยังไง ก็ชอบอากาศครับ เราชอบบรรยากาศภายในนั้น เหมือนเขาเปลี่ยนความเป็นเขาใหญ่ให้เรารู้สึกปลอดภัยขึ้น เหมือนซื้อบ้านแต่เราได้บรรยากาศโดยรอบ ไม่ว่าจะถนน หรือโซนต่างๆ เขามีโรงแรม มีสนามกอล์ฟ มีอะไรอยู่ในนั้นด้วย เหมือนเราได้มีโอกาสไปที่นั่นแล้วขับรถเล่นรอบๆ ได้ ไปร้านอาหารของเขา จริงๆ เราก็ไปๆ มาๆ อยู่สักพักแล้วครับที่นั่น”

ไปเจอได้ยังไง? “ตอนนั้นหมอเจี๊ยบไปถ่ายละครด้วยกันที่เขาใหญ่ แล้วหมอเจี๊ยบเหมือนเขามีบ้านอยู่ข้างในนั้นอยู่แล้ว เราไปเที่ยวเล่น เขาก็พาขับรอบๆ ก็โดนหมอเจี๊ยบป้ายยา”

คิดนานไหมว่าเราจะซื้อดีหรือว่ายังไงดี? “ก็คิดนาน เพราะมันก็เป็นของชิ้นใหญ่ ก็นานประมาณนึงเลยนะครับ แต่จริงๆ เราก็ใช้เวลากับสถานที่ตรงนั้นมา 3 ปีได้แล้วมั้งครับ”

มูลค่าประมาณเท่าไหร่? “โห…ต้องบอกเลยหรอ ก็ประมาณ 8 หลักครับ แต่ขายได้นะครับ ถ้าใครสนใจอยากจะรับไปดูแลต่อ ก็ได้เลยครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราอิ่ม ก็ไม่ใช่ว่าอิ่ม เราก็อยากจะอยู่กับสถานที่ตรงนั้นไปเรื่อยๆ แต่เราก็มีเป้าหมายอีกแบบหนึ่งในชีวิตกับแก้วแล้วว่าเราอยากจะหาที่สักที่หนึ่งเล็กๆ แล้วก็อยากจะปลูกผักกินกัน อยากจะทดลองวิถีชีวิตอีกแบบหนึ่ง”

ไม่อยากอยู่บ้านหลังใหญ่หลังนั้นแล้ว? “จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่เราก็ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งที่มีอยู่แบบนั้น เมื่อก่อนเราจะเป็นคนที่ต้องมีนั่นต้องมีนี่ แต่พอเรามีแก้วแล้ว เรารู้สึกว่าชีวิตมันเรียบง่ายขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าถ้าใครอยากได้บ้านหลังนั้น ก็ติดต่อมาได้นะครับ”

ถ้าเราต้องขายจริงๆ เราทำใจได้ใช่ไหม? “ทำใจได้ เพราะว่าเราได้สนุกกับการตกแต่งกันอย่างเต็มที่มากๆ แล้ว เหมือนเป็นงานศิลปะที่เราทำเต็มที่แล้ว ถ้าใครอยากได้ก็เอาไปดูแลต่อเลย เพราะของทุกชิ้นในนั้นเราเสาะหา แต่ละชิ้นมันหนึ่งเดียวแล้ว ไม่มีแล้ว”

ถ้าขายคือพร้อมเฟอร์นิเจอร์? “ใช่ครับ ก็คิดเหมือนกันนะว่าอยากเอาเฟอร์นิเจอร์เก็บไว้ เพราะหลายๆ อย่างมันหาไม่ได้แล้วจริงๆ แต่พอมันมองหลายๆ ทีแล้วเรารู้สึกว่ามันเหมาะกับที่นั่น คือเราก็จะฝึกให้ตัวเองไม่ต้องยึดติดกับสิ่งที่มี เราทั้งคู่รู้สึกเหมือนกันว่ามันไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆแล้วในโลกนี้ ถ้าเราได้ลองฝึกปล่อยออกไปบ้าง ก็อาจจะเป็นอีกสเต็ปหนึ่งในชีวิตที่เราอยากจะทดลอง”

เคยมีคนมาสอบถามบ้างหรือยัง? “ก็มีเพื่อนๆ ที่ถาม แล้วเห็นมีคนไปดูที่แถวนั้นไปถามบ้างครับ แต่ตอนนั้นเรายังยึดติดอยู่ว่าฉันต้องมี ฉันต้องครอบครอง แต่หลังจากวันนี้ติดต่อได้เลยครับ ราคาอาจจะสูงกว่าที่ซื้อมานิดหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะเอากำไรจากสถานที่ตรงนั้นเลย เพราะผมรู้สึกว่า เราได้กำไรในเชิงวิถีชีวิตมากๆ แล้ว เราได้มีโอกาสไปจัดงานแต่งตรงนั้นด้วย ค้นพบความหมายในชีวิตอะไรบางอย่างในช่วงที่มีบ้านหลังนั้นด้วย การได้ไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนและได้คุยกันเรื่องชีวิต หลายๆ อย่างที่เราผ่านมากับสถานที่ตรงนั้นมันก็คือกำไรมากๆ ได้มีโอกาสได้ใช้ ได้ทดลองตกแต่งบ้าน เราก็สนุกกับสถานที่ตรงนั้นมาก”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน