สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 พ.ย. 2564 SET Index วันนี้ปรับตัวลง โดยได้รับปัจจัยลบจากการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร ในขณะที่การระบาด COVID-19 ในไทย จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มมีแนวโน้มทรงตัว ในขณะที่ความหวังในประเทศอยู่ที่การฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิผลในช่วง 4Q/64 จะส่งผลให้การควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ดีขึ้น ประกอบกับการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในขณะที่สภาพัฒน์คาด GDP ปี 2565 จะขยายตัว 3.5-4.5%
โดยวันนี้ดัชนีเปิดตลาดบริเวณ 1,653 จุด โดยการซื้อขายระหว่างวันตลาดแกว่งตัวผันผวนในขาลง และอ่อนตัวลงจนมาปิดตลาดที่ 1,645 จุด ลดลง 5.96 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 102,897 ล้านบาท นำโดยการปรับตัวลงของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB), กลุ่มการแพทย์ (BDMS), กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (CPN), กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) และไอซีที (ADVANC) โดยแนวโน้มตลาดเป็น Sideway Up
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนยังคงจับตาจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงก่อนหน้านี้ กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง หลังจากสหรัฐ อาจระบายน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมา
ล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงมาอยู่ที่ 81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่วนค่าการกลั่นอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 4-5 USD/bbl เริ่มมีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, SPRC, ESSO และ BCP ในขณะที่ราคาถ่านหินลดลงมาอยู่ที่ 156 USD/ton เริ่มมีแรงขายทำกำไรหุ้น BANPU เช่นกัน ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติวันนี้ขายสุทธิ 3,253 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
