นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 2565 จะมีความผันผวนสูง เนื่องจากตลาดการเงินอยู่ในจุดเปลี่ยนของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจากระดับต่ำไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ซึ่งหลายประเทศเริ่มส่งสัญญาณที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากเกิดภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตรวดเร็วขึ้น ทำให้มีความต้องการในการใช้เงินมากขึ้น
ฉะนั้นอัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นและกระทบสภาพคล่องลดลง ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ทำให้จะมีการปรับนโยบายการลงทุนของทั่วโลกค่อนข้างมาก รวมถึงเศรษฐกิจในปีหน้าจะฟื้นตัวค่อนข้างมาก ดังนั้นจะมีหุ้นบางกลุ่มที่ฟื้นตัวขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจโลกและตามการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศที่สูงขึ้น เช่น ภาคพลังงาน ท่องเที่ยว อสังหาฯ อาจจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ข้อควรระวัง คือเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี ดิสทรัปชั่น เรื่อง new normal ซึ่งอาจจะทำให้บางธุรกิจที่เคยดีแล้วควรจะดี แต่อาจยังไม่กลับมาดี แต่บางธุรกิจที่ไม่คิดว่าจะสำคัญ แต่อาจเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจจะเห็นชัดเจนขึ้นในปีหน้า
ส่วนกระแสการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นได้ทั้งการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในขณะเดียวกันก็สามารถใช้เป็นตัวกลางในการจ่ายเงินได้ ซึ่งขณะนี้ตลท. ยังไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปทำเรื่องการซื้อขายคริปโตฯ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล แต่มุมมองของตลท. คือจะทำอย่างไรให้คนที่มีสินทรัพย์เป็นคริปโตฯ สามารถเปลี่ยนมาเป็นสกุลเงินจริงแล้วนำมาลงทุนในตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ได้สะดวกมากขึ้น ในรูปแบบการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อระบบนิเวศ (ecosystem) ระหว่างตลาด คริปโตฯ กับตลาดปัจจุบัน ไปด้วยกัน โดยระบบที่ตลาดจะพัฒนาจะเป็นระบบเปิดที่จะสามารถเปิดให้ผู้พัฒนาเข้ามาเป็นหนึ่งใน ecosystem ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเลือกใช้ได้
ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนพ.ย. 2564 SET Index ปิดที่ 1,568.69 จุด ลดลง 3.4% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า เมื่อพิจารณาช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มการเงิน
