มิซาวะ ราเม็ง ซุปเข้มกลมกล่อม หมูชาชูนุ่มละลายในปาก อร่อยยืนหนึ่งจากโอซากา

นี่คือร้านห้ามพลาดสำหรับคนรักเส้น

“มิซาวะ โอซาก้า ทงโคะสึ ราเม็ง” ร้านราเม็งจากโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ความอร่อยรสชาติเฉพาะตัวแนวโฮมเมด ใช้ของดีมีคุณภาพ ปรุงพิถีพิถัน เหมือนทำให้คนในครอบครัวกินเอง

เป็นร้านดังย่านชินไซบาชิ แหล่งช็อปปิ้งสุดปังของนครโอซากา เปิดตัวครั้งแรกปี 2552 แล้วได้รับการโหวตให้เป็นร้านราเม็งที่อร่อยยืนหนึ่งประจำย่านนี้

การันตีจากจำนวนลูกค้าที่ไปเข้าแถวต่อคิว แบบรอกินแถวยาวมาก

ทั้งนี้ ร้านเองก็มาเปิดที่เมืองไทยด้วยเช่นกัน ล่าสุดปักหมุดบนโซนไดนิ่ง ชั้น 3 เดอะมอลล์ ท่าพระ ที่เขาเพิ่งรีโนเวต ดูสดใสมีสีสันน่าเดินอย่างแรง

กระชับพื้นที่ความอร่อย ให้คนไทยได้ฟินโดยไม่ต้องบินไปญี่ปุ่น

สำหรับทีเด็ดของร้านที่ลูกค้าบอกต่อๆกันมา คือ น้ำซุปที่เข้มข้นและรสชาติกลมกล่อมมาก ซึ่งได้จากการเคี่ยวเป็นวันๆ 24-48 ชั่วโมงตามแต่ชนิดของซุป และเทคนิคพิเศษที่ดึงเอาคอลลาเจนจากกระดูกออกมา กระทั่งได้สุดยอดซุปที่นักกินพร้อมรอต่อคิว

สุดยอดอีกอย่างคือ หมูชาชู ที่นุ่มละมุนลิ้นแทบละลายในปาก เพราะผ่านการต้มในซุปอย่างดี จนได้รสชาติที่ลงตัว

นอกจากนี้ในส่วนของซอสปรุงรสก็สำคัญไม่แพ้กัน เบื้องหลังความอร่อยกลมกล่อมนี้ เป็นสูตรลับของมิซาวะ ใช้ของนำเข้าจากญี่ปุ่น

แล้วเมนูไหนที่ไปถึงแล้วต้องลอง จานไหนที่ห้ามพลาด?

นี่เลย เห็นแล้วว้าว อึ้งทึ่งมหัศจรรรย์ ควรค่าแก่การถ่ายรูป ก็ต้อง “มิซาวะ พรีเมี่ยม ทงโคะสึ ราเม็ง”

เป็นเมนูขายดีที่สุดของร้าน ซุปกระดูกหมูเข้มข้นที่สุดแล้วท็อปปิ้งด้วยโฟม เพื่อให้ซุปกระดูกหมูเข้มข้นอีกชั้นนึง ก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อม

ขาดไม่ได้คือ หมูชาชูที่ละลายปาก และไข่ออนเซ็น กินแล้วเข้ากัน

ส่วนสายเนื้อมิควรพลาด “มิซาวะ วากิว ราเม็ง”

จัดเต็มด้วยเนื้อวากิวนุ่มๆ หั่นชิ้นบางวางเรียงเต็มชาม โดยพนักงานจะมาเบิร์นเนื้อให้ที่โต๊ะ ลูกค้าสามารถเลือกระดับความสุกได้ว่าจะเป็นมีเดียม มีเดียมเวล หรือเวลดัน ซึ่งกลิ่นเบิร์นเนื้อจะเข้ากัน

มากกับซุปร้อนๆจากกระดูกหมู ปรุงรสด้วยโชยุสูตรพิเศษ กินคล่องคอโดยแท้

เสิร์ฟคู่กระเทียม และซอสสูตรพิเศษสำหรับจิ้มเนื้อโดยเฉพาะ

ถ้าชามเดียวคิดว่าไม่อิ่ม อีกชามควรเป็นแห้ง แนะนำ “มิซาวะ สึเคเม็ง”

เป็นราเม็งแห้ง เสิร์ฟแยกซุปกระดูกหมู และสต็อกไก่เข้มข้น พร้อมปลาป่นญี่ปุ่น เวลากินจะใช้วิธีจุ่มเส้นลงในซุปเข้มข้นแล้วค่อยเอาเข้าปาก ซึ่งวิธีกินก็จะคล้ายๆ บะหมี่เย็น

หากินไม่ง่ายนักในร้านราเม็งทั่วไป เพราะเมนูนี้เส้นต้องเลิศมากๆ เหนียวนุ่มหนึบเป็นพิเศษ มิเช่นนั้นจะไม่อร่อย อย่างร้านนี้ถ้าสั่ง ต้องรอเขาลวกเส้นอย่างน้อย 7 นาที

แอบกระซิบคนญี่ปุ่นชอบมาสั่งกินกันมาก

สุดท้ายเป็นเมนูที่กำลังฮิตในหมู่วัยโจ๋ “มิซาวะ ชิโอะ ราเม็ง” หรือราเม็งซุปเกลือ

เมนูนี้เป็นน้ำซุปสต็อกไก่ ผสมด้วยซอสเกลือญี่ปุ่นที่นำเข้าจากชิมามาสึ และโอกินาว่า ซึ่งว่ากันว่าเป็นเกลือที่อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น ทำให้หอม รสชาติกลมกล่อมลงตัว

ล่าสุดกำลังเป็นที่โปรดปรานของลูกค้าวัยรุ่น มาถึงเป็นต้องถามหา

ของหวานตบท้าย อันนี้ก็น่ากิน “โมจิย่าง” จุดเด่นของแป้งหนุบ แต่ไม่เหนียวแข็งหรือเละยุ่ย นำมาย่างก็จะหอมถ่าน แล้วรองด้วยสาหร่ายย่างเพิ่มความหอมขึ้นไปอีก ราดซอสถั่วเหลือง คาราเซล

กินคู่ถั่วแดงกวนหวานๆ คือดีงาม

คุณสุธี พรสวรรค์วงศ์ เจ้าของร้าน เล่าว่า ร้านเปิดขายที่ไทยครั้งแรกปี 2556 ที่รัชดาฯ โดยเจ้าของชาวญี่ปุ่นคนเดียวกับที่ทำร้านในโอซากาจนโด่งดัง สมัยนั้นถือเป็นร้านราเม็งที่ใหญ่ที่สุด และขายอาหารญี่ปุ่นหลากหลายด้วย ต่อมาย้ายมาที่สุขุมวิท 33 ซึ่งตนก็ตามไปกินจนเป็นขาประจำ กระทั่งสนิทกับเจ้าของชาวญี่ปุ่น และซื้อกิจการมาบริหารต่อ โดยทางญี่ปุ่นจะเป็นคนคุมคุณภาพรสชาติอาหาร

ต่อมาเกิดวิกฤตโควิด มีการล็อกดาวน์หลายครั้ง จึงปิดกิจการที่สุขุมวิท ก่อนย้ายมาเปิดอีกครั้งที่ห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมาก ลูกค้าชื่นชอบในรสชาติราเม็งที่อร่อยไม่เหมือนใคร

คุณสุธี ย้ำว่า แต่เราคงไม่เน้นเปิดสาขามากมาย เพราะยึดคอนเซ็ปต์ร้านราเม็งขนาดเล็กที่เน้นคุณภาพอาหารเป็นหลักทุกชาม ปรุงออกมาให้เหมือนทำให้คนในครอบครัวกิน ซึ่งแนวทางนี้ทำให้ร้านดั้งเดิมที่โอซากา ได้รับการโหวตเป็นราเม็งที่อร่อยที่สุดในเขตชินไซบาชิ

ดังนั้นที่นี่จะควบคุณภาพและรสชาติอาหาร เพื่อรักษาจุดยืนของร้านเหมือนที่ญี่ปุ่น

มาดามคูซีน