คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ประชาชื่น [email protected]

น้าชาติ อ่านข่าวรัสปูตินหญิง เลยอยากรู้ประวัติตัวจริงที่รัสเซียครับ เป็นผู้วิเศษจริงไหม

ระพี

ตอบ ระพี

อลัชชีจอมอิทธิพลแห่งจักรวรรดิรัสเซีย “กริกอรี เอฟิโมวิช รัสปูติน-Grigory Efimovic Rasputin” มีชีวิตรุ่งเรืองใน รัชสมัยซาร์นิโคลัสที่ 2 ราชวงศ์โรมานอฟ มีอิทธิพลสูงสุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อซาร์นิโคลัสที่ 2 ทรงออกแนวหน้าบัญชากองทัพรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 1 และที่สุดก็เป็นผู้หนึ่ง ที่มีส่วนสำคัญให้ราชวงศ์ล่มสลายจากการปฏิวัติประชาชน

กริกอรี รัสปูติน เกิดในหมู่บ้านชาวนาในไซบีเรียเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1869 ประวัติเล่าว่า เขาไม่สนใจการศึกษา ตามสภาพแวดล้อมที่ผู้คนในหมู่บ้านส่วนมากเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ เขาเป็นชาวนา ดื่มเหล้าหนัก เสเพลเรื่องผู้หญิง

มีข้อมูลจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม บทความโดย พล อิฏฐารมณ์ เขียนไว้ว่า วันที่ 30 ธันวาคม 2016 ถือเป็น วันครบรอบ 100 ปี การจากไปของ กริกอรี รัสปูติน ผู้วิเศษ แห่งราชสำนักโรมานอฟ เนื่องจากเขาเสียชีวิตจากการลอบสังหาร ในวันที่ 30 ธันวาคม 1916

คำว่า “รัสปูติน” ในภาษารัสเซีย แปลว่า จอมตัณหา ชื่อจริงๆ คือ กริกอรี เยฟิโมวิช โนวิก (Grigory Yefimovich Novykh)

เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาเข้าหานิกาย คลีสตี (Khlysty) ซึ่งเชื่อในการทรมานตัวเองและแสดงศรัทธาต่อพระเจ้าด้วยพิธีกรรมที่โน้มนำจิต เข้าสู่ภวังค์ แต่รัสปูตินไปไกลกว่านั้น เขาเสนอว่า คนจะเข้าใกล้พระเจ้าได้มากที่สุดเมื่อคนๆ นั้นรู้สึกได้ถึง “การปราศจากกิเลสตัณหาอันศักดิ์สิทธิ์” และคนที่จะเข้าถึงภาวะ ดังกล่าวได้ก็จะต้องผ่านการร่วมเพศแบบมาราธอนจนหมดความกระหายทางเพศไปเอง

รัสปูตินเข้าสู่ราชสำนักของรัสเซียได้ ส่วนหนึ่งเพราะราชสำนักสมัยนั้นนิยมชมชอบเรื่องไสยศาสตร์

ชื่อเสียงของรัสปูติน ที่ว่ากันว่า หากใครเพียงได้รับสัมผัสลูบไล้จากเขาก็จะทำให้หายจากการป่วยไข้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อมกุฎราชกุมารอเล็กซี รัชทายาทของซาร์นิโคลัสที่ 2 และซารินาอเล็กซานดรา ซึ่งป่วยด้วยอาการเลือดไหลไม่หยุด อาการกำเริบขึ้นมา ด้วยความที่สมัยนั้นยังไม่มียาที่ได้ผลดี รัสปูตินจึงถูกซารินาอเล็กซานดราเรียกไปเข้าเฝ้า และได้มีโอกาสสร้างความประทับใจต่อพระพักตร์ ด้วยการทำให้รัชทายาทพ้นจากความเจ็บปวดได้สำเร็จ (ว่ากันว่าน่าจะใช้การสะกดจิต)

เขากลายเป็นที่โปรดปราน เป็นผู้มีอิทธิพลสูงต่อราชสำนัก และรัฐ แม้จะมีผู้ถวายฎีการ้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องขี้เมาและมักมากในกาม ชอบฉวยโอกาสสมสู่กับหญิง ที่มาพัวพันไม่เลือกหน้า แต่ด้วยความรักต่อพระชายา และ พระโอรส ซาร์นิโคลัสทรงเลือกที่จะเพิกเฉย

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซาร์นิโคลัสเสด็จไปร่วมทัพใน แนวหน้าในปี 1915 ซารินาอเล็กซานดราเป็นผู้สำเร็จราชการ แต่พระนางมอบหมายให้รัสปูติน ในฐานะที่ปรึกษา เป็นผู้ดูแลกิจการของรัฐแทน

รัสปูตินซึ่งเป็นที่เกลียดชังของทั้งสมาชิกราชวงศ์และชนชั้นสูงหลายรายอยู่ก่อนแล้ว และเคยถูกลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง การที่ได้โอกาสเข้ามาก้าวก่ายกิจการบ้านเมืองโดยตรง จึงยิ่งทำให้ความเกลียดชังต่อตัวเขาหนักหนายิ่งขึ้น

เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ (Felix Yussoupov) พระสวามี ในพระนัดดาของพระเจ้าซาร์ ทรงเป็นผู้นำการวางแผนลอบสังหารรัสปูตินด้วยพระองค์เอง เพื่อยุติความฉาวโฉ่ของราชสำนัก

พระองค์เชิญรัสปูตินมาเฝ้าในคืนวันที่ 30 ธันวาคม ทรงต้อนรับด้วยเค้กและไวน์ใส่ยาพิษ รัสปูตินเพลิดเพลินกับอาหารและไวน์ โดยที่พิษไม่ได้ทำให้เขาเจ็บป่วยประการใด เจ้าชาย เฟลิกซ์ จึงคว้าปืนยิงเข้าใส่ รัสปูตินกรีดร้องและดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด แต่ยังไม่ยอมทิ้งชีวิต เขาพยายามเข้าทำร้ายเจ้าชายเฟลิกซ์ ก่อนที่หลายคน ซึ่งซุ่มอยู่ที่ชั้นบนจะวิ่งลงมา หนึ่งในผู้วางแผน ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นวลาดิเมียร์ พูริชเควิช (Vladimir Purishkevich) ผู้นำฝ่ายขวาของรัฐสภารัสเซีย กระหน่ำยิงเข้าใส่รัสปูตินหลายนัด และนัดหนึ่งเข้าที่ศีรษะพอดี

ดร.สตานิลัส ลาโซเวิร์ต (Dr.Stanislaus Lazovert) หมอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมแผนการได้เข้าไปดูร่างของรัสปูตินที่ล้มกองอยู่ และประกาศว่าเขาเสียชีวิตแล้ว

จากนั้นพวกเขาได้ห่อร่างของรัสปูติน พาไปยังแม่น้ำเนวาที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง เอาร่างที่ห่อไว้ของรัสปูตินยัดลงไปในโพรงน้ำแข็ง

เมื่อภายหลังมีการค้นพบห่อร่างของเขา ปรากฏว่าเขาน่าจะยังมีชีวิต ขณะที่ถูกโยนลงน้ำและพยายามดิ้นรนให้พ้นจากใต้ผืนน้ำแข็ง แต่ไม่สำเร็จ จึงจมน้ำตาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน