คริสต์มาส : มิสเซิลโท : คอลัมน์รู้ไปโม้ด โดยน้าชาติ ประชาชื่น

คริสต์มาส : มิสเซิลโท – ต้นมิสเซิลโทในคริสต์มาส หน้าตาเป็นไงคะ บ้านเราไม่มี

ตรีนุช

ตอบ ตรีนุช

มีข้อมูลอยู่ในเว็บไซต์วอยซ์ออฟอเมริกาไทย www.voathai.com ว่า ช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส นอกจากจะมีต้นสนที่ประดับประดาเพื่อการเฉลิมฉลองแล้ว ยังมีพืชชนิดหนึ่งที่เรียกว่ามิสเซิลโท” (Mistletoe) ซึ่งธรรมเนียมตะวันตกจะให้เราจุมพิตกับคนที่อยู่ใต้พุ่มมิสเซิลโทด้วยกัน

มิสเซิลโท ชื่อวิทยาศาสตร์ Phoradendron มาจากภาษากรีก แปลว่าโจรปล้นต้นไม้เป็นพืชกาฝากเก่าแก่ตระกูลเดียวกับไม้จันทน์ที่เติบโตบนกิ่งไม้พืชยืนต้นอื่นๆ ความพิเศษของมิสเซิลโท คือใบไม้จะไม่ร่วงแม้จะเข้าสู่ฤดูหนาวอันโหดร้ายหรือเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิแล้วก็ตาม อีกทั้งยังเป็นพืชที่มีมากถึง 1,300 สายพันธุ์ทั่วโลก ด้วยความพิเศษนี้ทำให้ต้นมิสเซิลโทเป็นประโยชน์กับนก ผึ้ง และผีเสื้อเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่พืชต่างๆ ล้มตาย

มิสเซิลโทปรากฏอยู่ในบันทึก ตำนาน ประเพณี บทประพันธ์ ตำนานหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในสมิธโซเนียน (Smithsonian) ระบุว่า ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 บัลเดอร์ (Baldur) บุตรของเทพแห่งดวงอาทิตย์ที่สิ่งมีชีวิตทั้งโลกเกลียดชัง เดือดร้อนถึงภรรยาและฟริกกา (Frigga) เทพแห่งความรักและการแต่งงาน ต้องร้องขอสิ่งมีชีวิตและสรรพสัตว์ทั้งโลกให้ไว้ชีวิตบัลเดอร์ แต่กลับลืมต้นมิสเซิลโท ลูกธนูที่ทำจากพืชกาฝากชนิดนี้จึงกลายเป็นอาวุธสังหารบัลเดอร์ในที่สุด

ตำนานหลังจากการลอบสังหาร มีความหลากหลาย บ้างก็ว่า ฟริกกาผู้เป็นมารดา หลั่งน้ำตาแห่งความอาดูรจนทำให้ผลของมิสเซิลโทกลายเป็นสีขาว บ้างก็ว่าบัลเดอร์กลับฟื้นคืน มาได้ ทำให้ฟริกกายกให้ต้นมิสเซิลโทเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติสุขและความรัก

วอลล์ สตรีต เจอร์นัล (Wall Street Journal) บอกว่า ในช่วงเทศกาลโครเนีย คริสต์ศักราช 79 ซึ่งเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวของชาวกรีก มีผู้ค้นพบความพิเศษของต้นมิสเซิลโทและเชื่อว่ามีพลังพิเศษ ต้นมิสเซิลโทจึงเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผู้คนในยุคนั้น ทั้งการแขวนไว้ที่หน้าบ้านเพื่อนำพาความโชคดีมาให้ นำมาใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆ แก้การเป็นหมัน และใช้ในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ เช่น ไล่แม่มด ป้องกันไฟไหม้ และยังเชื่อว่าเป็นต้นไม้สร้างความปรองดอง

แม้ว่าตำนานและเรื่องราวของมิสเซิลโทจะมีมายาวนาน แต่การจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโท ปรากฏในการบันทึกของ วอชิงตัน เออร์วิง (Washington Irving) นักเขียนชาวอเมริกันช่วงปี 1800 ที่ระบุว่าผู้ชายจะถือโอกาสจุมพิตหญิงสาวที่หมายปอง ระหว่างที่กำลังเก็บผลจากมิสเซิลโท ถ้าเก็บจนหมดต้นก็เป็นอันหมดเวลา

ต้นมิสเซิลโทเข้ามาสู่วัฒนธรรมของอังกฤษในช่วงคริสต์มาส จากบันทึกในช่วงปี 1800 มีการแขวนพุ่มมิสเซิลโท ที่เรียกว่า Mistletoe Bough ก่อนที่ต้นคริสต์มาสที่มาจากต้นสนจะถูกนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน แต่สำหรับการจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโทกลับถูกพบว่าเกิดขึ้นระหว่างคนรับใช้ในช่วงวันคริสต์มาสและเป็นสิ่งต้องห้ามในสมัยนั้น

การจุมพิตใต้พุ่มมิสเซิลโทกลับมาในอังกฤษอีกครั้ง จากหนังสือของ ชาร์ลส์ ดิกเกนส์ (Charles Dickens) หลายเล่ม ทั้ง The Pickwick Papers (1837) และ A Christmas Carol (1843) และเรื่องสั้นโรแมนติกของ แอนโทนี ทรอลลอป (Anthony Trollope) ที่มีชื่อว่า The Mistletoe Bough ซึ่งมีฉากจบด้วยการจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโท

มิสเซิลโทเริ่มเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในบอสตัน และเริ่มแพร่หลายในช่วงปี 1820 จากบทประพันธ์ของ วอชิงตัน เออร์วิง เรื่อง The Sketch Book ที่เล่าถึงประเพณีของคริสต์มาสในอังกฤษที่ต้องมีมิสเซิลโท และเรื่องเล่าของ สาวใช้แดนผู้ดีและการจุมพิตใต้มิสเซิลโทปรากฏอยู่ในหนังสือ เล่มนี้ด้วย

ปัจจุบัน ยังมีการแขวนพุ่มมิสเซิลโทไว้หน้าบ้าน เพื่อสื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส มากกว่าการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และนำพาโชคดีรวมทั้งการมีบุตรหลานมาสู่ครอบครัวเหมือนในอดีต ขณะที่การจุมพิตใต้ต้นมิสเซิลโท เห็นจะเป็นการเปิดบทสนทนาในช่วงวันคริสต์มาสเสียมากกว่า

[email protected]

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน