เห็นแล้วต้องร้อง หูยยย… ที่สุดของ หมูกรอบ ไข่ดองน้ำปลา ยั่วสะกดจิต ตามด้วยเนื้อโคขุน ชุ่มฉ่ำ ทำน้ำลายสอ ใครยังไม่โดน ควรโดน!
Baan Progressive Thai Cuisine ร้านอาหารไทยเล็กๆ ริมถนน ใกล้กับ BTS ราชเทวี ในซอยพญานาค ที่นั่งไม่เกิน 20 เก้าอี้ แถมครัวขนาดเล็กกะทัดรัดนี้ ดูเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นขัดกับปริมาณลูกค้าที่มารอต่อคิวกันซะเหลือเกิน
“ใส่ใจกับวัตถุดิบ สำคัญสุด ต้องให้เกียรติวัตถุดิบ” คะณานน คนดี หรือ เบนซ์ เชฟเจ้าของร้านกล่าวไว้อย่างหนักแน่น
ร้านเล็กๆ นี้สร้างขึ้นจากความครีเอทของ คะณานน คนดี(เบนซ์) และ ณัฐรัตน์ แซ่ลิ้ม(เบลล์) เชฟ 2 คน ที่รักในหมูกรอบและอยากเห็นคนกินมีความสุข
คะณานน เล่าว่า “เบลล์เป็นเชฟของหวานจากกอร์ดอง เบลอ ส่วนผมป็นเชฟของคาว ผมเรียนอยู่ที่นอร์เวย์ 10 ปี ทำงานเป็นเชฟอยู่ประมาณ 3-4 ปี แล้วถึงตัดสินใจมาเรียนอาหารไทยที่ประเทศไทย เพราะส่วนตัวอยากเรียนอาหารที่เป็นต้นกำเนิดของเรา ก็เลยมาเจอกับเบลล์ คิดว่าสองคนมาเปิดร้านอาหารก็น่าจะโอเค”
“เราอยากให้อาหารเป็นแนวที่ทันสมัยขึ้น เลยตั้งชื่อร้านว่า บ้าน โปรเกรสซีฟ ไทย คูซีน (Baan Progressive Thai Cuisine) เพราะอยากให้ชื่อร้านมันสื่อถึงเป้าหมายของเรา ร้านเราทำอาหารไทยแท้ แต่เอาวิธีการประกอบอาหารจากฝรั่งมาประยุกต์ให้เข้ากัน เช่น การทอดในกระทะ การใช้เนย แต่ต้องคงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยไว้เหมือนเดิมด้วยครับ”
ณัฐรัตน์ หรือ เบลล์ เชฟของหวานมือทองประจำร้าน เล่าว่า ทุกอย่างเริ่มจากการกินที่บ้านแล้วรู้สึกว่าอร่อยดี เลยลองเอามาขายดู ปรับนู่นปรับนี่จนออกมาในแบบที่คิดว่าดีที่สุด เพราะอยากรักษาความเป็นไทยที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย
พูดถึงเมนูที่กำลังดังกระหึ่มในโลกโซเชี่ยลและถูกพูดถึงอยู่เป็นประจำจนลูกค้าแน่นร้าน นั่นคือ “ข้าวหมูกรอบคั่วพริกกระเทียมไข่ดองน้ำปลา” ซึ่งไม่ว่าร้านจะเปิดกี่โมง เมนูนี้ก็จะถูกสั่งตลอดทั้งวันจนกระทั่งร้านปิดเลยทีเดียว
ข้าวหมูกรอบคั่วพริกกระเทียมไข่ดองน้ำปลา
หมูกรอบที่ปกติจะเป็นดั่งของล้ำค่าในเมนูอาหารตามสั่งทั่วไป แต่สำหรับร้าน Baan Progressive Thai Cuisine กลับนำหมูกรอบมากองอยู่ในจานแบบพูนๆให้เราได้กินจนจุใจ ตามด้วยซอสพริกกระเทียมหอมๆ เผ็ดจัดจ้านแบบลงตัวสุดๆ
“เราชอบหมูกรอบ ชอบความกรอบและมีเนื้อนิ่มๆของมัน ซึ่งตามร้านอาหารเราสั่งพิเศษ ก็จะได้มาประมาณ 5 ชิ้น ความหนาจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 มิลฯ อย่างคะน้าหมูกรอบบ้านเราก็มีหมูกรอบนิดเดียว แต่เรามองว่าจริงๆแล้วหมูกรอบมันอร่อย แล้วเราอยากกินในปริมาณที่เยอะๆ เราเลยคิดว่าจะมาลองทำเอง ปรากฏว่าอร่อยเลยเอามาขายค่ะ” ณัฐรัตน์ เล่าที่มาของเมนูสุดฟินนี้อย่างเรียบง่าย
ทางร้านบอกว่าเคยลองทำแบบเอามาผัดกับซอสเหมือนทำกะเพรา แต่ปรากฏว่าผัดแล้วหมูไม่กรอบ เลยต้องทำหมูกับซอสแยกกัน แล้วนำมาราดตอนจะเสิร์ฟ ดังนั้น แม้การส่งแบบเดลิเวอรี่ที่ใช้เวลาเฉลี่ย 1 ชม. หมูก็ยังคงกรอบอยู่ ถือเป็นความใส่ใจในคุณภาพของอาหารทุกจานก่อนจะเสิร์ฟ เพื่อความสุขของคนกินจริงๆ
ด้าน “ไข่ดอง” อันเลื่องชื่อของร้าน คะณานนให้คำตอบว่า “เมนูหมูกรอบนี้ค่อนข้างเผ็ด และมีรสเลี่ยน ไข่ดองน้ำปลา สามารถตัดเลี่ยนได้ดีและเมื่อผสมกับข้าวจะนัวกว่ามาก”
เทคนิคการผสมผสานที่ลงตัวแบบนี้ ทางร้านการันตีว่าไม่ได้ใส่ “ไข่ดอง” เพราะกระแสที่กำลังมาแรงแน่นอน
ข้าวผัดเขียวหวาน เนื้อโคขุนโพนยางคำ ไข่ดองน้ำปลา
นอกจากนี้ยังมีเมนู “ข้าวผัดเขียวหวาน เนื้อโคขุนโพนยางคำ ไข่ดองน้ำปลา” ที่จัดว่าเด็ดไม่แพ้หมูกรอบ เนื้อโคขุนอย่างดี นำมาทอดกับเนยแบบฉ่ำๆ ทานคู่กับข้าวผัดเขียวหวานแน่นด้วยเครื่องเทศ และตบท้ายด้วยไข่ดองน้ำปลาเพิ่มความฟินกันสุดชีวิต
วัตถุดิบทุกอย่างในร้านเป็นสินค้าของไทยทั้งหมด ซึ่งเนื้อโคขุนเองก็สั่งมาจากสหกรณ์โคขุนจากสกลนครโดยตรง เป็นวัตถุของคนไทยที่เน้นคุณภาพ
“วัตถุดิบทุกอย่างเราจะซื้อจากคนที่เขารักวัตถุดิบนั้นจริงๆ แฮปปี้มีความสุขที่จะทำในอาชีพนั้นจริงๆ เช่นกะปิเราก็มาจากชุมพร หมูกรอบก็มาจากคนที่เชี่ยวชาญและชำนาญในการทำหมูกรอบ เนื้อทุกชิ้นมาจากคนที่รักเนื้อจริงๆ หรือเป็นบุชเชอร์(Butcher) ที่สามารถคัดสรรส่วนที่ดีที่สุดมา”
“เราไม่ได้รับมาจากใครก็ได้ ความใส่ใจมันสำคัญเรื่องอาหาร ยิ่งใส่ใจมากอาหารจะยิ่งอร่อยขึ้น เริ่มจากวัตถุดิบเลยครับ อย่างเนื้อถ้าใส่ใจกับมัน เลี้ยงมันดีๆ เนื้อก็จะอร่อย”
ข้าวหมูกะปิ
ยังมีเมนู “ข้าวหมูกะปิ” ที่เกิดมาจากครอบครัวเคยทำให้กินตอนเด็กๆ จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งเมนูฮิตของร้านเช่นกัน แค่ตักคำแรกก็รู้สึกได้ว่าใช้กะปิที่มีคุณภาพสมคำร่ำลือ
ทุกๆ เมนูอาจใช้เวลานานในการประกอบทำขึ้น แต่เชฟมือทองทั้ง 2 คน บอกไว้เป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ ความใส่ใจ
“สำคัญสุด ต้องให้เกียรติวัตถุดิบ เราไม่มีเคล็ดลับ ไม่มีน้ำจิ้มสูตรเด็ดหรือสูตรลับอะไร เราทำเพราะเรารู้สึกว่ามันอร่อย แล้วเราอยากให้คนกินแล้วรู้สึกอร่อยเหมือนเรา มีความสุขที่ได้กินอะไรอร่อยๆ จากความใส่ใจของเรา”
บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนทานข้าวฝีมือแม่ที่บ้าน แต่ปรุงแต่งด้วยรสชาติและความสร้างสรรค์สไตล์โมเดิร์น กลายเป็นความลงตัวแบบนัวลิ้น ส่งผ่านจากใจของคนรักอาหาร และ ให้เกียรติอาหาร อย่างสุดจิตสุดใจ
ไปโดนกันได้ที่ร้าน Baan Progressive Thai Cuisine ใกล้กับ BTS ราชเทวี(ทางออก 3) ซอยพญานาค
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
