คัด12เด็กไทยรับทุนจนจบป.เอก
รวมพลสมาชิก JSTP เสริมทักษะ
คอลัมน์ ไอคิวทะลุฟ้า
คัด12เด็กไทย – สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (JSTP) จัดพิธีมอบทุนการศึกษาระยะยาวจนจบปริญญาเอกในประเทศ ให้กับ 12 เยาวชนไทย ประจำปี 2562
นับเป็นรุ่นที่ 21 เพื่อเดินหน้าเส้นทางสายวิทยาศาสตร์ ที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย พร้อมรวมพลสมาชิก JSTP เรียนรู้ทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์ และร่วมเดินป่าศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ช่องเขาขาด จ.กาญจนบุรี เสริมทักษะนอกห้องเรียน เมื่อไม่นานนี้
เยาวชนที่ได้รับทุน JSTP ระยะยาวประจำปี 2562 จูน น.ส.พัชริญา ชวลิตจินดา ปริญญาตรีปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า “การได้รับทุนครั้งนี้จะไปต่อยอดการทำวิจัย ซึ่งเป็นทางที่สนใจมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะอนาคตอยากเป็นแพทย์นักวิจัย สำหรับโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ทำ ด้วยความที่ถนัดวิชาชีววิทยากับเคมี จึงศึกษาประสิทธิภาพการสลายเมทิลีนบลูโดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา
เป็นโครงงานที่สังเคราะห์ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้ในการสลายสีย้อมที่อยู่ในน้ำเสียต่างๆ พยายามหา สภาวะที่เหมาะสมกับตัวเร่งปฏิกิริยาว่าที่สภาวะ pH เท่าไหร่ ความเข้มข้นของสารตั้งต้นจึงจะดีที่สุด ต้องทดลองเรื่อยๆ ซ้ำๆ หาวิธีใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยไป โครงงานนี้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสียที่ปล่อยออกมาได้ โดยตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้สลายสารพิษจะเป็นสารเคมี ที่ไม่เป็นพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
ด้าน ฟีฟ่า นายทักษ์ดนัย ศิริสมบัติ ชั้น ม.5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช เผยว่า “โครงงานที่ทำเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์วิชั่น ทำให้คอมพิวเตอร์มองเห็นภาพเหมือนที่มนุษย์มอง ให้มันเข้าใจว่าเราแยกแยะสิ่งต่างๆ ด้วยอะไร เพื่อทดแทนการสำรวจข้อมูลแบบเก่าที่จะสำรวจแค่หนึ่งพื้นที่ เอาไปคูณกับปริมาณทั้งหมด ทำให้เกิดค่า error ที่สูง
แต่ถ้าเราใช้คอมพิวเตอร์วิชั่น จะสามารถสำรวจได้ทั้งหมด โดยที่ไม่มีค่า error ตอนนี้ใช้ที่กรมป่าไม้ในการสำรวจปะการังฟอกขาวและสำรวจป่า โดยใช้โดรนบินให้ทั่วแล้วทำสำมะโนครัวได้ทั้งหมด เพื่อพัฒนาต่อไปเป็น Big Data ในการคำนวณว่าถ้าตัวแปรประมาณนี้อีกกี่วันจะเป็นปะการังฟอกขาว อนาคตอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัย และน่าจะกลับมาเป็นอาจารย์”
ขณะที่ ก้องฟ้า ด.ช.กัมปนาท ยิ่งเสรี ชั้นม.3 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง เผยว่า “ทำโครงงานเรื่องเบาะที่บางแต่นุ่ม สามารถวัดความนุ่มออกมาเป็นตัวเลขได้ แล้วนำมาเปรียบเทียบว่าอันไหนนุ่มอันไหนแข็ง ความแข็งที่ว่าคือความแข็งของการกดของหมอน วิธีการวัดคือก้นเหวกับขอบเหว จุดที่ตัวหมอนบุ๋มลงไปสูงสุดกับต่ำสุดว่าระยะทางเท่าไร เทียบกับความหนาของวัตถุที่เราวัด เป็นเครื่องมือช่วยปรับความนุ่มของหมอนได้”
ส่วนรุ่นพี่ JSTP รุ่นที่ 15 เฌอ นายปัญญาวุฒิ โทณานนท์ ที่กำลังจะไปศึกษาต่อปริญญาเอกด้านเคมีอนินทรีย์ที่ต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสพบปะรุ่นน้องในกิจกรรมชุมนุมสมาชิก JSTP เสริมว่า “ในการเรียนหรือการทำวิจัยไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะประสบความสำเร็จ บางครั้งเกิดความผิดพลาดได้ เช่นพวกพี่ๆ ที่จบมาแล้วระดับหนึ่งก็เคยเกิดขึ้น ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำคัญที่ว่าจะจัดการแก้ไขกับความผิดพลาดนั้นอย่างไร”