โฆษณาตรวจยีนสมรรถภาพเด็ก

แพทย์ค้าน-ชี้ไร้วิทยาศาสตร์รองรับ

โฆษณาตรวจยีนสมรรถภาพเด็ก – ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศ ไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยสมาคมเวชพันธุศาสตร์และจีโนมิกส์ทางการแพทย์ แถลงการณ์จุดยืนร่วมกัน เรื่องเท็จหรือแท้ : โฆษณาการตรวจยีนค้านการโฆษณาเรื่องการตรวจพันธุกรรมที่ดูเหมือนกับว่าจะทำได้กว้างขวาง

สามารถตรวจหาศักยภาพหรือสมรรถภาพของเด็กได้แต่เริ่มแรก หรือใช้คัดเลือกอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย หรือสมรรถนะทางกีฬาและการออกกำลังกายที่เหมาะสม ตลอดไปจนการตรวจความเสี่ยงของโรคต่างๆ ซึ่งพบว่าการตรวจที่โฆษณาเหล่านี้ไม่มีหลักฐานรองรับทางวิทยาศาสตร์

โดย .นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันมีการเสนอการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อทำนายความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือปัญหาสุขภาพ ตลอดจนวิถีชีวิตและสุขภาพ

โดยอ้างหลักการการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามลักษณะของโรคหรือวิถีชีวิตและศักยภาพดังกล่าวเป็นลักษณะที่ซับซ้อน ไม่ได้ถูกกำหนดด้วยลักษณะทางพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตอื่นๆ ทำให้การใช้ประโยชน์จากการตรวจในลักษณะนี้ไม่มีประสิทธิภาพที่แท้จริง

แตกต่างไปจากการตรวจโรคพันธุกรรมที่เกิดจากยีนเดี่ยวหรือปัจจัยทางพันธุกรรมที่ชัดเจน เช่น ความผิดปกติของโครโมโซม ที่มีประโยชน์ในการวินิจฉัย การพยากรณ์โรค และการถ่ายทอดลักษณะดังกล่าวในครอบครัวที่ชัดเจน

ดังนั้น เพื่อตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดจากการที่ผู้รับบริการไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจเลือกการตรวจสารพันธุกรรม ตลอดจนอาจมีการชี้นำจากการ กล่าวอ้างที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ถึงความถูกต้อง และแม่นยำ ที่อาจเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดทางการแพทย์ หรือ เพิกเฉยละเลยต่อการตรวจคัดกรองหรือการดูแลที่จำเป็น

ทางสมาคมเวชพันธุศาสตร์และจีโนมิกส์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้านพันธุศาสตร์การแพทย์และจีโนมิกส์ทางการแพทย์ได้ร่วมกับราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย, ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงออกแถลงการณ์จุดยืน เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป ตลอดจนใช้เป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อทำนายความเสี่ยงในการเกิดโรคในลักษณะบริการเชิงพาณิชย์ในครั้งนี้

รศ.นพ.ชเนนทร์ วนาภิรักษ์ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขั้นตอนที่ใช้ตรวจก่อนคลอดจากทารกในครรภ์จะมีความเสี่ยงที่ต้องอธิบาย เพราะหากต้องการตัวอย่างของน้ำคร่ำหรือเนื้อเยื่อรกหรือเลือดจากสายสะดือทารกในครรภ์จะเพิ่มความเสี่ยงได้มากกว่า

ความเสี่ยงสำคัญหลายอย่างที่เกี่ยวกับการทดสอบทางพันธุกรรมจะเกี่ยวข้องกับผลทางอารมณ์ จิตใจ สังคม หรือการเงิน ผู้รับผลการตรวจอาจโกรธ หดหู่ วิตกกังวล รู้สึกผิด หรือรู้สึกถูกตีตราเกี่ยวกับผลลัพธ์ บ่อยครั้งที่การทดสอบทางพันธุกรรมสร้างความตึงเครียดภายในครอบครัว

.นพ.ประสิทธิ์ เผ่าทองคำ สมาคมเวชพันธุศาสตร์และจีโนมิกส์ทางการแพทย์ และอาจารย์ประจำสาขาเวชพันธุศาสตร์ และจีโนมิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีการโฆษณาชวนเชื่อว่าการตรวจพันธุกรรมสามารถทำนายพัฒนาการ บุคลิกภาพ สมรรถภาพทางร่างกาย ตลอดจนการเลือกสารอาหารเสริมที่เหมาะสมแก่ร่างกายได้ และการตรวจความเสี่ยงโรคที่พบบ่อยโดยทั่วไป เช่น ภาวะสมองเสื่อม เบาหวาน เป็นต้น

ซึ่งจากหลักฐานในปัจจุบันเชื่อว่าพันธุกรรมอาจมีบทบาทในเรื่องเหล่านี้ แต่เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมากและไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานวิทยาศาสตร์สนับสนุนการใช้การตรวจทางพันธุกรรมเพื่อทำนายลักษณะดังกล่าวได้อย่างได้ผล จึงไม่ควรสนับสนุนแพทย์ที่ทำเวชปฏิบัติโดยอิงวิทยาศาสตร์ทุกคน และไม่ควรให้คำแนะนำให้ตรวจในลักษณะนี้ในทางการแพทย์

การตรวจอาจนำไปสู่การแปลผลที่ผิดพลาดรุนแรง การเลี้ยงดูเด็กที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ขวางพัฒนาการ การจำกัดอาหารหรือได้อาหารเสริมที่ราคาแพง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน