คอลัมน์ หลอน

นทธี ศศิวิมล

ที่โรงเรียนของฉันจะมีตึกทั้งหมดห้าตึก ตึกวิทย์ 1 จะเป็นตึกที่เก่าที่สุด มีสี่ชั้น ห้องบนชั้นสี่ปิดตายหมดแล้ว และมีการปิดประตูเหล็กล็อกตรงบันไดที่จะขึ้นชั้นสี่ทั้งสองด้าน เก่าจนสนิมเกาะเกรอะกรัง แถมมีผุพังเป็นแห่งๆ จนพวกเราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า ถ้าพวกครูจะเปิดขึ้นมาจริงๆ จะเปิดกันออกไหม

“เราว่าไม่ต้องเปิดนะ ถีบแรงๆ ก็พังละ” ย่านางพูดขึ้น จนพวกเราที่เหลือพากันฮาไปหมด

“ว่าแต่มันก็คงไม่มีเรื่องอะไรเร่งด่วนขนาดต้องถีบมั้ง” ใบแก้ว เพื่อนอีกคนในกลุ่มว่า

“มันก็ไม่แน่หรอก จำได้ไหม เรื่องที่พี่ๆ ประธานสีพูดกันเมื่อวันก่อนน่ะ”

สองวันมานี้ ทั้งโรงเรียนต่างพากันพูดถึง และโพสต์ สเตตัสพูดคุยกันไม่หยุดเกี่ยวกับเรื่องพวกพี่ประธานสีอยู่ทำของตกแต่งสแตนด์เชียร์กันจนฟ้ามืด แล้วเจอดีเข้าที่ตึกวิทย์ 1 นี่ ว่ากันว่า ขณะที่ทุกคนกำลังจะเก็บข้าวของกลับ ก็ได้ยินเสียงกระแทกส้นเท้าตึงๆ วิ่งอยู่บนตึก คล้ายเด็กวิ่งเล่น ทีแรกก็ไม่คิดอะไรกันมากก็นึกว่าใครอาจจะขึ้นไปหยิบของหรือไปแอบเล่นอะไรข้างบน

พี่คนหนึ่งเงยหน้าขึ้นไปดูแล้วก็สะดุ้งเฮือก ก่อนจะสบถหยาบคายออกมา พอเพื่อนคนอื่นถามก็บอกว่าเห็นรุ่นพี่คนนึงยืนอยู่ตรงระเบียงชั้นสี่ มองลงมาข้างล่าง เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันนั่นแหละ

ทุกคนได้ยินก็พากันสะดุ้ง เฮ้ย ก็ชั้นสี่มันปิด ใครจะขึ้นไปได้ พูดกันยังไม่ทันขาดคำ พี่คนที่เขาว่าเห็นอยู่บนชั้นสี่ก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอด บอกว่าเพิ่งไปซื้อหนมเซเว่นมา พี่คนที่เห็นก็หน้าซีด ตัวสั่น หลังจากนั้นก็พากันรีบเก็บของ เก็บยังไม่ทันเสร็จได้ยินเสียงคนวิ่งบนตึกอีก ทั้งที่ตอนนั้นลุงภารโรงมาปิดประตูตึกล็อกแล้ว

ไม่พอ หลังเสียงวิ่งตึงๆๆๆ ยังมีเสียงกรีดร้องเหมือนผู้หญิงกำลังโกรธดังไล่หลังมาจากบนตึกอีก ทีนี้พากันโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์กันหมดแล้ว บางคนยังเก็บไม่เสร็จก็โยนของทิ้งมันตรงนั้นไม่สนใจอะไรแล้ว บางคนถึงกับวิ่งเลย

บนชั้นสี่เคยเป็นชั้นที่มีห้องชีวะ เป็นห้องเก็บพวกสัตว์ดอง อะไรต่ออะไรดองในโหลแก้วใส่ฟอร์มาลิน ข่าวลือว่า ที่เขาปิดไปไม่ให้ใช้ เพราะเคยมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งเข้าไปเล่นซ่อนเพื่อนในนั้นแล้วทำโหลแตก ไอระเหยฟอร์มาลินกระจายไปทั่วห้อง ทำให้เกิดอาการหืดหอบกำเริบ พูดก็ไม่มีเสียง เลยร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ ในที่สุดก็ขาดใจตายอยู่ในห้องนั้นเอง หลังจากนั้นทีแรกก็ปิดแค่ห้องเก็บโหลสัตว์ดอง แต่ต่อมามีหลายคนบอกว่าเห็นเด็กสาวชุดนักเรียนหน้าตาเศร้าๆ เดินไปมาอยู่ที่ระเบียงชั้นสี่ยามวิกาล บางคนนั่งเรียนๆ กันอยู่บอกว่าได้ยินเสียงขวดแก้วหล่นแตกบ้าง ได้ยินเสียงผู้หญิงหอบๆ ก็มี บางทีก็มีคนแปลกหน้ามายืนอยู่ที่ด้านหลังห้องบ้าง หนักสุดคือเรียนๆ อยู่ได้ยินเสียงทุบผนังตุบๆๆๆๆ ดังมาจากห้องที่ปิดตาย พร้อมเสียงร้องให้ช่วย

สรุปทางโรงเรียนเลยสั่งให้ขนข้าวของย้ายลงมาแล้วปิดมันไปทั้งชั้น ไม่ต้องใช้ชั้นสี่ไปเลย แต่กระนั้นนักเรียนที่ต้องใช้บริการห้องเรียนที่ชั้นสาม ก็ยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งจากด้านบน หรือมีนักเรียนแปลกหน้ามาชวนคุยแล้วชวนขึ้นไปเล่นด้วยกันที่ชั้นสี่ เดินเลี้ยวขึ้นบันไดหายไปข้างบนดื้อๆ ทั้งที่มีประตูเหล็กปิดอยู่ เล่นเอาจับไข้ด้วยความกลัวกันหลายคน

“หม่อนเชื่อป่ะเรื่องที่เขาเล่าๆ กัน” ย่านางถามฉันขึ้นมาอีกที เมื่อวันนี้พวกเราต้องมานั่งเรียนกันที่ชั้นสามตึกวิทย์ 1 หลังจากที่เพิ่งมีเรื่องผีหลอกรุ่นพี่ไปหมาดๆ “เย็นนี้ไปลองถ่ายคลิปผีกันป่ะ ถ้าถ่ายติดนี่แจ้งเกิดแน่นวล” เพื่อนเล่นเสียงคำท้ายพลางยักคิ้วแผล็บ

เอาเข้าจริงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเชื่อ แต่ถ้าให้ถึงกับท้าพิสูจน์ก็คงไม่เอาเหมือนกัน ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว “จะไปก็ไปกันเหอะ เราไม่ค่อยสบายอ่ะ วันนี้อยากกลับบ้านอาบน้ำนอนไวๆ”

ถึงจะตอบไปอย่างนั้นแต่ก็ดูเหมือนโชคไม่ค่อยเข้าข้างเท่าไหร่ เพราะนอกจากฉันจะไม่ได้กลับบ้านไวอย่างที่คิดแล้ว คืนนั้นทั้งคืนยังแทบไม่ได้นอนอีกด้วย

คาบสุดท้ายเป็นวิชาสังคมศึกษา จำได้ว่าฉันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวไม่ค่อยสบายและง่วงมาก เลยแอบฟุบหลับกับโต๊ะไป นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกที ตอนที่รู้สึกว่ามีคนมาสะกิด ตอนนั้นฟ้าเริ่มมืดแล้ว

“เธอๆ ตื่นเหอะ เขากลับกันไปหมดแล้ว” เสียงนั้นไม่คุ้นเคย เหมือนฉันเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเป็นนักเรียนม.ปลายแต่งชุดนักเรียนโรงเรียนเรานี่แหละ แต่ไม่คุ้นหน้า กำลังยืนสะกิดอยู่

ตอนนั้นฉันตกใจมาก จะเป็นไปได้ยังไง ทุกคนจะลุกทิ้งฉันไว้แบบนี้เนี่ยนะ ฉันรีบวิ่งออกนอกห้อง มองไปรอบๆ ไม่มีใครสักคน และตกใจกว่านั้นเมื่อเห็นเลขป้ายหน้าห้องระบุว่าเป็นชั้นสี่

ฉันรีบตั้งสติแล้ววิ่งไปที่บันได แต่ก็พบว่าทางลงถูกประตูเหล็กปิดล็อกไว้แน่นหนา แถมด้านหลังยังมีเสียงฝีเท้าคนวิ่งตามมาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน