มิกกี้เมาส์ในกองกีด
พื้นที่สร้างสรรค์@ลำพูน
มิกกี้เมาส์ – ลําพูน เมืองเก่าที่ลุ่มรวยด้วยทุนทางวัฒนธรรม เมืองเล็กๆ แห่งนี้ทุกเย็นวันศุกร์ ที่ต้นซอย ถนนรถแก้ว ซึ่งคนพื้นที่เรียกว่า “กองกีด” ภาษาเหนือหมายถึง “ถนนแคบ” กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ให้เยาวชนได้แสดงออกถึงศักยภาพ และความคิดสร้างสรรค์
แม้เพิ่งเริ่มต้นไม่นาน ผู้คนอาจบางตาไม่หนาแน่นเหมือนถนนคนเดินที่หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย
แต่เราเห็นความพยายามของคนในชุมชน ที่ค่อยๆ สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเห็นพลังเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ของเด็กๆ ที่เข้ามาใช้พื้นที่แห่งนี้ เพื่อบอกเล่าและดูแลบ้านเมืองของเขาเอง
เมื่อสาวเท้าเข้าไปก็ตื่นตากับ มิกกี้เมาส์ ตัวการ์ตูนสุดคลาสสิคในตำนาน เจ้าหนูตัวสีทองที่สร้างรอยยิ้มและความสุข แถมยังกุมหัวใจดวงน้อยๆ ของเด็กๆ ทั่วโลก กำลังผายมือแล้วส่งยิ้มกว้างๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนในกองกีด รวมถึง ส.ค.ส.ปี 2563 ชุด “แมวไม่อยู่ หนูระเริง” และภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานเป็น ส.ค.ส. สวัสดีปีใหม่ 2563 ให้พสกนิกรชาวไทย เป็นภาพค้างคาวสีเหลือง พร้อมข้อความลายพระหัตถ์ ความว่า สวัสดีปีใหม่ 2563 สวัสดีปีชวดหนู ค้างคาวคือหนูมีปีกนำโชค และแสตมป์ ปีชวดที่จัดแสดงไว้
ถนนรถแก้ว เดินไปเรื่อยๆ พบกับ ข่วงพันปี สามารถเดินทะลุไปถึงวัดมหาวัน (มหาวันวนาราม) ตลอดถนนประดับโคมไฟประดับทอดยาวไปถึงหน้าวัดมหาวัน พระอารามหลวงของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย ซึ่งเจดีย์ วัดมหาวันเป็นที่บรรจุพระรอดลำพูน 1 ใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด
นเรนทร์ ปัญญาภู หรือ พี่โอ๊ค นักจดหมายเหตุอิสระของจังหวัดลำพูน นักสะสม ทั้งยังเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ Mickey House ตั้งอยู่ถนนสันเหมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เล่าให้ฟังว่า พื้นที่ต้นซอยรถแก้วนี้อยากให้เป็นพื้นที่ของเยาวชนได้แสดงออกงานศิลปะ งานประดิษฐ์ ของสะสม งานเขียนใหม่ งานสร้างใหม่ เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน อยากให้คนลำพูน กลุ่มคนที่เก็บสะสมได้เข้ามาเห็น ซึ่งแต่ละเดือนมีเรื่องราวจัดแสดงที่ต่างกัน ช่วงนี้อยู่ในบรรยากาศปีใหม่ แล้วเป็นปีหนู จึงนำเรื่องราวของมิกกี้เมาส์มาจัดแสดงโดยใช้ชื่อว่า “นิทรรศการในกองกีด : รอยยิ้มบนผืนผ้า”
พร้อมชวนมาดูรอยยิ้มของมิกกี้บนผืนพรมจากดิสนีย์ ตื่นตากับโมเดลหนูยิ้ม ของสะสมรุ่นลิมิเต็ดหายาก ที่มาอวดโฉมรับปีหนูทอง ที่ผลัดเปลี่ยนกันมา ซึ่งบางสัปดาห์จัดเต็มเหมือนเดินหลงเข้ามาอยู่ในดงมิกกี้เมาส์ รวมถึงผลงานภาพเขียนของศิลปินที่มีชื่อก้องที่สะบัดปลายพู่กันรังสรรค์ผลงานขึ้นมาแสดงในงานนี้
จะมีใครบ้างตามไปดูกันเองก็แล้ว กัน!!!
นายนเรนทร์ คนพื้นที่ซึ่งคลุกคลีและมีบทบาทในกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ จ.ลำพูน ตอกย้ำว่า พื้นที่แห่งนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนกล้าแสดงออก ใครอยากอวดของ อวดสิ่งดีๆ ก็มาที่กองกีด นอกจากนี้สินค้าที่วางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นถุงผ้า ขนมล้วนผลผลิตของคนในชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนต่อไป พร้อมแนะนำให้รู้จักกลุ่มเยาวชนที่เข้ามาใช้พื้นที่
“มิ้น” นายณัศมิน ขัติยะวรา วัย 29 ปี ผู้ดูแลกลุ่มสภานักเรียน และองค์การนักศึกษา 4 สถาบัน ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ได้แก่ โรงเรียนจักรคำคณาทร โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ วิทยาลัยเทคนิคลำพูน และ โรงเรียนเมธีวุฒิกร
“กิจกรรมในโรงเรียนไม่ได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกับคนภายนอก ผมอยากให้น้องๆ ทำกิจกรรมร่วมกับคนภายนอกและมองเห็นความสัมพันธ์ของชุมชน สังคมโดยรอบเราต้องช่วยพัฒนาไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ใหญ่ทำเราต้องช่วยผลักดัน หลังจากพูดคุยกับน้องๆ ทั้ง 4 สถาบัน ร่วมถึงครูทั้ง 4 สถาบันเห็นด้วย ก็ได้ระดมความคิดจากกิจกรรมที่เด็กๆ สนใจคือเรื่องสิ่งแวดล้อม” มิ้นกล่าว
ก่อนให้รายละเอียดว่า เริ่มต้นด้วยการดูแลต้นไม้ในเขตเมืองเก่า จะทำอย่างไร และได้ทำแผนที่ต้นไม้ อยู่ที่ไหน มีกี่ต้น เวลาผ่านไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างเป็นสิ่งที่เด็กๆ ลงมือทำ เรื่องที่ 2 การดูแลริมน้ำ กวง ซึ่งน้องๆ ช่วยกันเก็บขยะ ทุกเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน เพราะทุกเช้าและทุกเย็นจะมีนักท่องเที่ยวมาเดินออกกำลังกาย อยากให้ภาพของเมืองสะอาดตา น่าเดิน และทุกคนฉุกคิด แม่น้ำจะใสไม่ใส เราจะทำอย่างไร ช่วยกันดูแลต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นที่มาของกิจกรรมที่เด็กๆ มาเปิดหมวกเล่นดนตรี และทุกคนมาด้วยจิตอาสาเป็นหลัก มิ้นเล่าให้ฟังพร้อมชี้ชวนให้ฟังเสียงเพลงของกลุ่มคนตัวเล็ก ซึ่งไม่ได้มาใช้พื้นที่เล่นๆ เอามันเท่านั้น
ขยับมาที่ “โดโด้” นายณัฐนันท์ เชียง กุมา อายุ 16 ปี จากโรงเรียนจักรคำคณาทร ที่มากับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ กล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้พวกเรามาร่วมทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ไม่ได้มีแค่เราสถาบันเดียวแต่มีเพื่อนๆ นักเรียนจากที่อื่นมาร่วมด้วยช่วยกัน เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่เราภูมิใจมาก ที่ผ่านมาได้จัดแสดงนิทรรศการหลายเรื่องหนึ่งในนั้นคือ เรื่องเจ้าหลวงลำพูน ทำให้เราได้รู้จักและจดจำ รับรู้เรื่องราวในอดีตของบุคคลสำคัญของบ้านเมืองเรา ขณะเดียวกันทำให้เราได้บอกเล่ากับนักท่องเที่ยวได้
“ในช่วงเดือนนี้เรานำผลงานภาพเขียนมาจัดแสดง แต่ยังไม่ขายนะ และในอนาคตหวังว่าพื้นที่นี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งของลำพูน ที่มีความงอกงามด้านวัฒนธรรมและเป็นพื้นที่เปิดกว้างให้เยาวชนได้แสดงออก” โดโด้กล่าวทิ้งท้าย
ร่วมชวนพ่อแม่จูงมือลูกๆ หลานๆ มาเดินเพลินๆ ถ่ายรูปสวยๆ รับปีหนูทอง ที่ต้นซอยรถแก้ว หลังวัดพระธาตุหริภุญชัย หรือโซนข่วงพันปี จ.ลำพูน
… แล้ว ปะกั๋น ตี้กองกีดเน่อ !!!