เด็กชายในป่าใหญ่

หนึ่งวันของ‘ฮาริ’

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

หนึ่งวันของ‘ฮาริ’ – “นั่นนกกาเหว่าตัวเมีย ตาสีแดง ขนมีลายครับ แต่ถ้าเป็นตัวผู้จะขนสีดำไม่มีลาย นั่นก็นกปรอดหัวสีเขม่า โน่นนกจับแมลงสีน้ำตาลกับนกกินปลีอกเหลืองครับ”

เสียง ด.ช.ศุภณัณ รามากฤษณะเศรษฐี หรือ ฮาริ ไล่เรียงชื่อบรรดานกละแวกบ้านของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว นี่ไม่ใช่การสุ่มชื่อมาบอกเล่า แต่ฮาริชอบดูนก ช่างสังเกตและศึกษาเกี่ยวกับนกแต่ละชนิดด้วยตัวเองอยู่เสมอ จึงจดจำรายละเอียดและพฤติกรรมของนกหลายร้อยชนิดได้เป็นอย่างดีจนสามารถเป็นไกด์นำศึกษานกในป่าได้

ฮาริกับการต่อยอดความชอบ

 

ทุกๆ เช้าเวลาอยู่บ้าน หลังจากอรุณสวัสดิ์คุณแม่แล้ว ฮาริจะยกเก้าอี้คู่กายและกล้องคู่ใจที่มีเลนส์ขนาดใหญ่จนเกือบจะยาวเท่าความสูงของตัวเอง ออกมาหามุมเหมาะๆ เพื่อรอทักทายเหล่าบรรดานกต่างชนิดที่จะมากินอาหารเช้าที่ต้นตะขบและต้นมะกอกใกล้บ้าน นอกจากชอบดูนกแล้วเขายังปลูกไม้ผล ปลูกพืชผักสวนครัวสำหรับกินเองในครอบครัวและเผื่อแผ่ถึงนกและสัตว์อื่นๆ รวมถึงเก็บเมล็ดพันธุ์สำหรับปลูกในคราวต่อไปด้วยตัวเอง ตอนนี้ไม่ว่าจะเหลียวซ้ายแลขวาจะมีนกสารพัดสายพันธุ์แวะเวียนผลัดกันมาชิมผลไม้ที่บ้านตลอดทั้งวัน

ปลูกผักกินเอง แบ่งปันเพื่อนร่วมโลก

 

นอกจากการส่องนกที่บ้าน คุณแม่ยังเป็นสารถีขับรถพาเด็กชายนักสำรวจออกเดินทาง ไม่ว่าจะขึ้นเหนือล่องใต้ ทั้งคู่จะไปด้วยกันเสมอ เส้นทางการเรียนรู้ของฮาริจึงมีธรรมชาติเป็นครูและมีคุณแม่เป็นเพื่อน ร่วมชั้นเรียน คุณแม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชอบ ให้โอกาสและสนับสนุนพัฒนาการการเรียนรู้ของลูก และเรียนรู้ไปพร้อมกับลูก

แม่เหมียว ผู้สนับสนุนหลัก

 

“แม่สังเกตลูกแล้วรู้เลยว่าถ้าเขาได้อยู่กับธรรมชาติและได้ลงมือทำด้วยตัวเองเขาจะเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ ลูกอยากทำอะไรเราก็วางใจให้เขาลองก่อน ถ้าเขาไม่ชอบก็เปลี่ยนได้ เรายืดหยุ่นได้ แม่เชื่อว่าธรรมชาติเป็นครูที่ดีที่สุดของเราทั้งสองคน” คุณแม่เหมียว ทองสิน ขำขันมณี คุณแม่ของฮาริบอกเล่าความคิดเห็นในฐานะแม่ที่พร้อมเรียนรู้ไปกับลูกไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม

การเรียนรู้ของฮาริได้รับการสนับสนุนจากคุณแม่ที่พร้อมนำทางนำพาไปสู่ความรู้ที่ฮาริสนใจ ในขณะเดียวกันคุณพ่อก็เป็นผู้สนับสนุนทางกำลังใจและคอยขัดเกลาปลูกฝังในเรื่องราวต่างๆ ที่ฮาริต้องการเติมเต็ม ฮาริจึงเป็นเหมือนสมุดเปล่าที่พร้อมต้อนรับความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ

ตื่นพร้อมตะวันมาส่องนก

 

หลายครั้งที่ฮาริกับคุณแม่ออกผจญภัยร่วมกันในป่าเขาเพื่อเฝ้าศึกษาธรรมชาติและนกต่างๆ ทำให้ฮาริมีทักษะการเอาตัวรอดในป่า ครั้งหนึ่งฮาริอยากไปเก็บภาพนกเงือกด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต ทั้งสองคนต้องอยู่ในเต็นท์กลางป่าตั้งแต่เช้าตรู่จนย่ำเย็นเป็นเวลาเกือบ 42 วัน บางวันฝนตก บางวันร้อน ลำบากและเหนื่อยยาก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ยิ่งใหญ่ที่แสนคุ้มค่า

“ผมอยู่ในป่ามากกว่าอยู่บ้านครับ ผมชอบดูนก เอากล้องไปถ่ายรูปด้วย นกสวยๆ มีเยอะแยะในป่า เวลาไปเฝ้าดูนกต้องเดินขึ้นเขา บางที่พื้นลื่น ฝนตก ลำบากและเหนื่อย แต่สนุกมากครับ ธรรมชาติสอนให้รู้คุณค่าของทุกชีวิต ถ้าอยากเห็นนกสวยๆ ก็ต้องอนุรักษ์ป่า ปลูกต้นไม้เยอะๆ ครับ”

สวยไหมครับ

 

การมองเห็นความสวยงามของนกแต่ละสายพันธุ์เปรียบเสมือนการมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติ เด็กชายฮาริไม่เพียงบันทึกความสวยงามที่ตัวเองเห็นด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายเท่านั้น แต่เขายังวาดนกที่เขาชื่นชอบอย่างละเอียดลงในสมุดบันทึกด้วย นอกจากนี้ฮาริยังวาดรูปนกหลายสายพันธุ์ลงบนปกสมุดแล้วจำหน่ายเพื่อเก็บสะสมทุนสำหรับการผจญภัยครั้งต่อไปและรายได้ส่วนหนึ่งบริจาคให้องค์กรที่ทำงานด้านอนุรักษ์นกเงือกเพื่อให้เจ้านกแสนสวยชนิดนี้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและยั่งยืน

ฮาริกับกล้องคู่ใจ

 

จากความชอบสิ่งมีชีวิตติดปีกหลากสี ได้สังเกต คลุกคลี และเรียนรู้ให้มากขึ้น กลายเป็นพลังสร้างสรรค์ที่ทำให้เด็กชายธรรมดาคนหนึ่งเลือกเส้นทางการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบ่งปันสิ่งดีๆ สู่สังคมตามศักยภาพของตัวเองและดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างมีความสุข

เรื่องราวของฮาริกับนกที่เขารัก เป็นเพียงการเริ่มต้นการเรียนรู้ ในหนึ่งวันเท่านั้น ฮาริมีเรื่องราวอีกมาก ติดตามชมในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน หนึ่งวันของฮาริ ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 05.05 น. ทางช่อง 3 กด 33 ติดตามข่าวสารได้ทางแฟนเพจทุ่งแสงตะวัน

โดย…ณัฐริยา โสสีทา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน