เหมียวลายสีส้ม ผู้กลับมาจากความตาย

คอลัมน์ แมวสำคัญของโลก

โดย…ขึ้นหนึ่งค่ำ

เหมียวลายสีส้ม – “เมื่อเจ้าเหมียวกลับบ้านหลังรถชนตายและถูกฝังไปแล้วถึงเก้าเดือน!”

คำที่เขาว่ากันว่าแมวมีเก้าชีวิตนั้นไม่ว่าใครก็คงจะเคยได้ยินกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ แต่ใครจะไปคิดล่ะ ว่าจะมีแมวที่ถึงขนาดฟื้นขึ้นมาจากความตายได้จริงๆด้วย

เรื่องราวที่เราจะเล่าในวันนี้คือเรื่องราวของเจ้าแมวสีลายส้มที่มีชื่อว่า “แอลฟี่” ที่เจ้าของยืนยันและเล่าว่า มันกลับมาบ้านของมันได้ทั้งๆที่พวกเขาเห็นมันถูกรถชนตายและฝังซากของมันไปแล้วตั้งแต่เมื่อเก้าเดือนก่อน!

คุณแองเจโล เพตทริลโล ในวัย 39 ปี เล่าให้ฟังว่า ที่บ้านเขาเลี้ยงแมวสีส้มไว้สองตัว คือแอลฟี่ และเฟรดดี้ วันหนึ่งเพื่อนบ้านของเขาแจ้งมาว่า เห็นแมวตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่ที่ริมถนนบริเวณใกล้ๆบ้านของพวกเขา เมื่อคุณแองเจโลตามไปดู ก็พบซากแมวตายตามที่เพื่อนบ้านบอกจริงๆ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจว่ามันคือเจ้าแอลฟี่หนึ่งในแมวที่เขาเลี้ยงไว้ หลังจากนั้นคุณแองเจโลจึงนำซากมันไปฝัง

หลังจากนั้นราวเก้าเดือน คุณแองเจโล และคุณเคธี่ (ภรรยา) ก็ย้ายบ้าน โดยไม่ลืมพาเจ้าเฟรดดี้ แมวลายสีส้มเหมือนกันที่เลี้ยงไว้อีกตัวย้ายตามกันไปด้วย แต่ย้ายบ้านไปได้เพียงสองวัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านที่บ้านเก่าโทรมาหา

เพื่อนบ้านคนนั้นได้แจ้งคุณแองเจโลว่า เขาเห็นแมวลายเสือสีส้มตัวหนึ่งพยายามหาทางเข้าบ้านของคุณแองเจโลอยู่ มันเดินดูทั้งทางประตูด้านหน้า อ้อมไปที่ประตูหลัง วนเวียนอยู่รอบบ้าน และเขามั่นใจว่ามันน่าจะเป็นแมวของคุณแองเจโลนี่แหละ

ฝ่ายคุณแองเจโลที่คงงงน่าดู ก็ตอบไปว่า เพื่อนบ้านน่าจะเข้าใจผิดแล้วละ เพราะว่าเจ้าเฟรดดี้ แมวลายสีส้มของเราก็นอนหลับปุ๋ยอยู่ด้วยกันเนี่ย

เพื่อนบ้านก็พูดต่อว่า แต่แมวตัวนี้มันไปยอมไปไหนเลยนะ แถมยังมุ่งมั่น พยายามจะปีนเข้าตรงหน้าต่างห้องนอนบ้านเก่าของคุณแองเจโล เหมือนกับที่แมวทั้งสองตัวของคุณแองเจโลเคยทำเปี๊ยบเลย

เอาละ คราวนี้คุณแองเจโลและภรรยาก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ภรรยาของเขาถามว่า “นี่ คุณแน่ใจนะว่าซากแมวตายที่คุณฝังไปนั่นเป็นเจ้าแอลฟี่น่ะ”

คุณแองเจโลแกก็ตอบไปอย่างมั่นอกมั่นใจเลยว่า “ชัวร์ ร้อยเปอร์เซ็นต์”

แต่ทว่าวันต่อมา เพื่อนบ้านคนเดิมก็ยังแจ้งว่า เจ้าแมวลายสีส้มตัวเดิมนั้น ยังคงนั่งรออยู่ด้านนอกตัวบ้าน ร้องเรียกเหมียวๆอยู่ตลอดทั้งคืนอย่างน่าสงสาร

คุณเคธี่ ภรรยาคุณแองเจโลทราบเรื่องนี้ก็ทนไม่ไหว รีบขับรถข้ามเมืองกลับไปที่บ้านเก่าทันที และพอเธอไปถึงบ้านเก่า ก็ได้เจอเจ้าแมวลายเสือสีส้มตัวนั้น และเธอก็จำได้แม่นยำว่า เป็นเจ้าแอลฟี่ แมวของเธอแน่นอน

แอลฟี่ในวัยสามปี ตัวเดิมแน่ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีปลอกคอที่เคยสวม แถมยังดูเหมือนจะอ้วนขึ้นอีกหน่อยด้วย คุณเคธี่คิดว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา น่าจะมีใครสักคนดูแลเจ้าแอลฟี่อยู่แน่ๆ ในขณะที่ครอบครัวเธอเข้าใจผิดคิดว่ามันตายไปแล้ว

คุณแองเจโลบอกว่า “ไม่น่าเชื่อเลยว่า แมวที่พวกผมฝังไปตั้งแต่เก้าเดือนที่แล้ว แล้วก็พากันนั่งร้องไห้กับภรรยา เศร้าโศกเสียใจกับความตายของมันกันอยู่เป็นเดือนๆมันจะกลับมาได้ ภรรยาผมเห็นมันทีแรกยังไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังเป็นปริศนาคาใจสองสามีภรรยาว่า แมวตายตัวที่คุณแองเจโลฝังไปนั่น มันใช่แอลฟี่จริงๆหรือเปล่า หรือเป็นตัวอื่น และช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าแอลฟี่มันหายไปอยู่ที่ไหนมา และนึกยังไงถึงกลับบ้านมาตอนนี้

ในเมื่อตอนที่คุณแองเจโลพบซากแมวสีส้มตัวนั้นที่นอนตายข้างถนน ใกล้บ้าน ที่แมนเชสเตอร์ เขาแน่ใจ มั่นใจว่าตัวเองตรวจสอบแน่นอนมั่นใจแล้วว่า นั่นคือซากศพของแอลฟี่จริงๆ

หลังเก้าเดือนผ่านไปหลังจากตายปริศนาของแอลฟี่ เจ้าแอลฟี่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่มันรักอีกครั้ง โดยที่สองสามีภรรยาสรุปกับตัวเองว่า น่าจะเป็นเรื่องผิดพลาด เข้าใจผิดกันมากกว่า ซึ่งความเข้าใจผิดครั้งนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่ดี เมื่อได้แมวที่รักกลับมาอีกครั้ง จะมีปัญหาก็เรื่องเดียวคือ พอเจ้าแอลฟี่กลับมาอยู่บ้าน และได้มาเจอเพื่อนเก่า คือเจ้าเหมียวเฟรดดี้ลายสีส้มเหมือนกัน ที่ตอนนี้อายุ ห้าปี มันทั้งสองดันจำหน้ากันไม่ได้เสียแล้ว พากันขู่ใส่หน้ากันฟ่อดๆ แต่สองสามีภรรยาก็หวังว่า เดี๋ยวมันคงปรับความเข้าใจกันได้ และกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้เหมือนเดิมในเวลาไม่ช้านี้

คุณแองเจโลและคุณเคธี่ยังเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้แมวตัวเองด้วยการฝังไมโครชิป ให้กับทั้งแอลฟี่ และ เฟรดดี้ ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันปัญหาความสับสนเช่นกรณีที่ผ่านมาอีก หากเจ้าเหมียวลายสีส้มที่รักของพวกเขาเกิดพลัดหลงหรือสูญหายไปอีกในอนาคต

เรื่องของแมวเหมียวที่กลับมาจากความตาย หรือตายแล้วฟื้น ไม่ได้มีแค่กรณีของแอลฟี่เท่านั้นนะคะ ยังมีอีกหลายรายเลยทีเดียว แม้แต่ในไทยเองก็มีเหมือนกัน ติดตามเรื่องราวเหล่านี้ต่อได้ในตอนหน้าค่ะ

ที่มา : www.dailymail.co.uk