รู้ไปโม้ด

น้าชาติประชาชื่น [email protected]

ผมอยากทราบประวัติยุคคาวบอยในอเมริกา

บักเทิ่ง

ตอบ บักเทิ่ง

เกร็ดความรู้จากนิตยสารต่วย?ตูน นำมาเป็นคำตอบ ว่า หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในสหรัฐอเมริกา ระหว่างกองทัพของรัฐบาลฝ่ายเหนือกับกองทัพฝ่ายใต้ในช่วง พ.ศ.2404-2408 เป็นยุคของการบุกเบิกจากดินแดนทางเหนือและฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ซึ่งชาวยุโรปไม่กล้าไปอยู่ เพราะมีแต่ความแห้งแล้ง ทั้งเป็นถิ่นของคนพื้นเมืองที่ไม่คุ้นเคยกับผู้อพยพชาวยุโรป

จนกระทั่ง เมริเวเธอร์ ลิวอิส และ วิลเลียม คลาร์ก นักสำรวจประสบความสำเร็จในการออกเดินทางจากฝั่งตะวันออกไปจนถึงชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ (การสำรวจครั้งนี้เป็นไปตามความประสงค์ของประธานาธิบดี โธมัส เจฟเฟอร์สัน)

ในยุคนั้นคนที่มุ่งหน้าไปทางตะวันตกมีสองพวกคือ คนที่ต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวและมีโอกาสจับจองที่ดินเป็นของตนเอง กับพวกที่ทำผิดกฎหมายแล้วหนีความผิดไป
2
หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์แล้ว การบุกเบิกที่ว่านั้นเริ่มขึ้นหลังสงครามกลางเมือง เลยมาจนเข้าช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ยุคนั้นคนอเมริกันเรียกแดนตะวันตกว่า โอลด์ เวสต์-Old West หรือไวลด์ เวสต์-Wild West และพื้นที่ที่จัดว่ายังเป็นแดนเถื่อนอยู่นั้น ได้แก่ดินแดนซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีทั้งหมด

ราว พ.ศ.2410 เมื่อเส้นทางของรางรถไฟขยายตัวสู่ทิศตะวันตกมากขึ้น ทำให้ธุรกิจส่งฝูงวัวจากตอนกลางของประเทศไปเลี้ยงคนในภาคตะวันออกเติบโตตามไปด้วย คนต้อนวัวหรือ ?คาวบอย? จึงเป็นที่ต้องการมาก อาชีพนี้แม้จะทำรายได้ดี แต่ก็เป็นอาชีพที่อันตรายมากด้วย เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่อากาศสุดโหด แถมยังมีความเสี่ยงจากการถูกโจมตีโดยโจรผู้ร้ายและพวกอินเดียน

คาวบอยที่เราคุ้นเคยส่วนใหญ่จะเป็นคนผิวขาว แต่ในความเป็นจริงแล้วคาวบอยมีคนผิวสีด้วย อย่างเช่นคนผิวดำที่มาจากทาส หรือพวกเม็กซิกันที่จะพบมากแถบพื้นที่ที่ติดกับประเทศเม็กซิโก

นอกจากนั้นยังมีชาวอินเดียนจำนวนหนึ่งที่ปรับตัวเข้ากับคนผิวขาวได้ แต่เนื่องจากดินแดนตะวันตกในยุคนั้นห่างไกลจากความเจริญและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผู้คนที่อพยพเข้าไปทำมาหากินที่นั่นจึงต้องพกปืนเพื่อป้องกันตัว การตัดสินข้อพิพาทต่างๆ ด้วยปืนถือเป็นเรื่องปกติของคนยุคนั้น

ตลอดระยะเวลา 40-50 ปีของยุคไวลด์ เวสต์ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นั่น จนกลายเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา อาทิ การตื่นทองที่แคลิฟอร์เนีย เมื่อพ.ศ.2391-2398 หลังจาก เจมส์ ดับเบิลยู. มาร์แชล พบทองในแม่น้ำขณะกำลังก่อสร้างโรงเลื่อยไม้ของเขา

ข่าวการพบทองแพร่ไปทั่วประเทศ เมื่อหนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโกนำไปตีพิมพ์ ผู้คนจากทุกทิศจำนวนราว 300,000 คน แห่กันไปแคลิฟอร์เนียเพื่อหาทอง

จากหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีคนอาศัยอยู่เพียง 200 หลังคาเรือน ภายในเวลาเพียง 5-6 ปี การหลั่งไหลของนักขุดทองทำให้ซานฟรานซิสโกเติบโตขึ้นกลายเป็นเมืองใหญ่ มีการตัดถนน สร้างบ้านพัก โบสถ์และโรงเรียนขึ้นจำนวนมาก กระทั่งต้องแยกแคลิฟอร์เนียออกเป็นรัฐรัฐหนึ่ง

พ.ศ.2403 เกิดไปรษณีย์ด่วน (Pony Express) ส่งจดหมายและพัสดุขนาดเล็กโดยใช้ม้าเร็ววิ่งบนระยะทางกว่า 2,000 ไมล์ จากเมืองเซนต์โยเซฟ รัฐมิสซูรี จนถึงเมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย วิธีการคือแบ่งเส้นทางออกเป็นช่วงช่วงละ 75-100 ไมล์ บุรุษไปรษณีย์ 1 คนจะรับส่งในช่วงที่ตนรับผิดชอบ ซึ่งในแต่ละช่วงก็จะเตรียมม้าไว้เปลี่ยนทุกๆ 10-15 ไมล์

เมื่อไปถึงสุดช่วงของตนก็ส่งจดหมายและพัสดุให้คนที่อยู่ช่วงถัดไปรับต่อ ส่วนตนเองก็รับจากคนนั้นเอากลับไปส่งในเส้นทางเดิมของตน คือส่งทั้งไปและกลับ

อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะนอกจากเป็นเส้นทางทะเลทราย ยังอาจเจอกับโจรดักปล้นหรืออินเดียนที่ไม่เป็นมิตร ผู้ที่รับงานนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นเด็กกำพร้าอายุไม่เกิน 18 ปี รูปร่างเล็ก ผอม เพื่อไม่ให้ม้ารับภาระหนักเกิน

โดยปกติการส่งจากต้นทางไปถึงปลายทางจะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ การส่งพัสดุแบบนี้มีอายุไม่ถึง 2 ปี เพราะหลังจากเครือข่ายโทรเลขไปถึงแคลิฟอร์เนียในปี 2404 บริการนี้ก็ยุติลง

แก๊งโจรและมือปืน ตลอดระยะเวลาในยุคไวลด์ เวสต์ มีผู้ร้ายที่รวมตัวกันเป็นแก๊งขึ้นมาเพื่อปล้นธนาคาร รถไฟ ฝูงปศุสัตว์ และคนเดินทาง นับได้ร่วม 50 แก๊ง ทำให้เกิดดาวเด่นทั้งในด้านที่ดีและด้านไม่ดีขึ้นมาจนกลายเป็นตำนานคาวบอยเป็นจำนวนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน