เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นส่งผลกระทบอย่างหนัก ทำให้ผู้คนต้องดิ้นรน ถึงขั้นต้องขายของรักของสะสม เพื่อต่อชีวิตท่ามกลางสภาพวิกฤตที่แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก

เหมือนกับ วาน อิรฟายิม อาซิม ชายชาวมาเลเซีย วัย 31 ปีรายนี้ นักสะสมรองเท้าผ้าใบสไตล์วินเทจ และเขาเพิ่งจะขายคอลเลกชันที่ทรงคุณค่าที่สุดของเขา รองเท้าผ้าใบ Converse Non Skid คู่หนึ่งที่ผลิตในปี 2460 หรือที่ผลิตขึ้นเมื่อ 104 ปีก่อน เพื่อหาเงินมาต่อชีวิต

“เพื่อหาเลี้ยงชีพ ผมต้องตัดใจปล่อยรองเท้า Converse รุ่นแรกของโลกที่ผลิตในปี 2460 ในชื่อ Converse Non Skid” อาซิมกล่าว “ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ยกเว้นแค่เชือกผูกรองเท้าที่เปื่อยและพื้นรองเท้าที่สึกเล็กน้อย นี่เป็นรองเท้าสำหรับสะสมซึ่งไม่เหมาะสำหรับการสวมใส่”

A part of history.

อาซิมกล่าวต่อว่าสำหรับบางคนนั้นอาจจะมองว่ารองเท้าคู่นี้นั้นเป็นเพียงรองเท้าผ้าใบเก่า ๆ ที่ดูไร้ค่า บ้างก็ดูถูกว่านี่เป็นเพียงขยะที่รอวันถูกนำไปทิ้ง และนำเงินไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่เสียดีกว่า แต่สำหรับคนรักของวินเทจหรือนักสะสมนั้น พวกเขากลับคิดว่านี่ไม่ใช่รองเท้าธรรมดา แต่มันคือหนึ่งใน ‘ประวัติศาสตร์’

“เท่าที่ผมรู้ มีรองเท้ารุ่นนี้อีกคู่หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ Converse ในบอสตันที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดี” อาซิมกล่าว

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และสถานที่ในร่มอาจเป็นรูปภาพของ 1 คน

สำหรับ Converse Non Skid เป็นรองเท้าจากปี 2460 ที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เล่นบาสเก็ตบอล โดยคำว่า Non Skid ที่แปลว่า “กันลื่น” มาจากพื้นยางของรองเท้าผ้าใบคู่นี้ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นบาสเก็ตบอลในคอร์ตให้มากขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานรองเท้าผ้าใบ Converse ก็กลายเป็นรองเท้าแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และครองใจผู้คนมาได้ทุกยุคทุกสมัยจวบจนปัจจุบัน

โดย Converse Non Skid ของอาซิมคู่นี้ถูกตั้งราคาเอาไว้ที่ 40,800 ริงกิต หรือประมาณ 314,000 บาท ซึ่งมีผู้ที่สนใจจะซื้อรองเท้าคู่นี้ถึง 7 คนด้วยกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วรองเท้าคู่นี้ก็ถูกขายไปในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงให้กับผู้ที่สนใจจากรัฐปะหังของมาเลเซียที่ยอมจ่ายในราคานี้

นอกจากนั้นอาซิมยังแถมรองเท้า Converse ที่เขาสะสมอีก 3 คู่จากปี 2493, 2503 และ 2513 ไปให้กับผู้ซื้อรายนี้ด้วย นอกจากนี้เขายังหวังว่าเจ้าของใหม่จะดูแลคอลเลกชันรองเท้าผ้าใบวินเทจอันล้ำค่าของเขาเป็นอย่างดี

ทั้งนี้สำหรับที่มาของรองเท้า Converse คู่นี้ อาซิมกล่าวว่า ย้อนกลับไปในปี 2561 เขาซื้อของสะสมวินเทจมาจากคู่รักคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ในอเมริกา โดยซื้อรองเท้ามาพร้อมกับกางเกงขาสั้นและสนับเข่าจากปี 2459 ที่ถูกใช้สำหรับนักบาสเก็ตบอล เพราะว่าในตอนนั้นคู่รักต้องการเงินเพื่อนำไปรักษาลูกที่กำลังป่วย

พวกเขาจึงติดต่อมาหาอาซิมผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องจากเห็นโพสต์ที่เขาได้กล่าวถึงประวัติของรองเท้าผ้าใบวินเทจ และสำหรับเหตุผลที่เขาตัดสินใจขายของสะสมสุดล้ำค่าคู่นี้ก็ เพราะว่าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เขาสูญเสียงานจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา และเขาต้องการเงิน เพื่อนำมาใช้ดำรงชีวิตต่อไป

ที่มา : mashable / Jeroong Wia

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน