แพทย์เผย! ไม่ล้างทำความสะอาดสะดือ เสี่ยงติดเชื้อ แถมสะสมแบคทีเรียมากกว่า 2,300 สายพันธุ์ พร้อมแนะวิธีป้องกันง่าย ๆ

ดร.การัน ราจัน ศัลยแพทย์ชื่อดังประจำระบบสาธารณสุขในอังกฤษ (NHS) ผู้แบ่งปันภูมิปัญญาทางความรู้ต่าง ๆ ในช่องทางติ๊กต็อกตอบกลับเรื่องราวสุดสะพรึงของผู้ใช้รายหนึ่งที่กล่าวว่า แฟนหนุ่มไม่เคยทำความสะอาดสะดือของเขาเลย ทำให้เธอทำความสะอาดจนพบกับก้อนบางอย่างที่ยิ่งดึงออกมา แฟนก็ยิ่งร้องโอดครวญว่าเจ็บ

ทางด้านดร.ราชันอธิบายว่าก้อนดังกล่าวเรียกว่า ขี้สะดือ (Belly Button Stone) ซึ่งเกิดจากเหงื่อ, เซลล์ผิวที่ตายแล้ว, ความมัน, เสื้อผ้า หรือแบคทีเรีย หากไม่หมั่นล้างออกเป็นประจำ จะทำให้สามารถสะสมและแข็งตัวเป็นก้อนกลม ซึ่งขี้สะดือมีหลายสี โดยปกติแล้วจะเป็นสีดำ แต่อาจเป็นสีน้ำตาลอ่อนได้ พร้อมออกคำเตือนให้ผู้ชมทราบถึงอันตรายจากการไม่ทำความสะอาดสะดือเป็นประจำอาจเกิดภาวะสะดืออักเสบ (Omphalitis)

ภาพจาก dr.karanr

ผลการศึกษาในโครงการ Belly Button Biodiversity พบว่าแบคทีเรียหลายพันชนิดอาศัยอยู่ในสะดือ โดยอาสามัครรายหนึ่งมีขี้สะดือ 60 ก้อน พบแบคทีเรียทั้งหมด 2,368 สายพันธุ์ ซึ่งแบคทีเรียบางสายพันธุ์ยังไม่เคยมีการศึกษาหรือค้นพบในวิทยาศาสตร์

รวมไปถึงผลการศึกษาในปี 2555 ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจำนวนแบคทีเรียที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้เข้าร่วมการวิจัยมีแบคทีเรียประมาณ 67 สายพันธุ์ในสะดือ อาสาสมัครรายหนึ่งถูกพบว่าเป็นโฮสต์ของแบคทีเรียที่ก่อนหน้านี้พบได้เฉพาะในดินของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ที่แปลกไปกว่านั้นคืออาสาดังกล่าวไม่เคยเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นมาก่อน

ดังนั้น แม้ว่าสะดือที่หน้าท้องจะเป็นส่วนเล็กๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะสะดือโบ๋หรือสะดือจุ่น การรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ไลฟ์สไตล์ และกิจวัตรต่าง ๆ อาจเกิดเหงื่อและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ภายในสะดือ นอกจากจะเกิดขี้สะดือหรือก้อนดำในสะดือแล้ว ยังสามารถเกิดกลิ่นเหม็นและอาการปวดท้อง หากมีสิ่งคัดหลั่งผิดปกติ เช่น น้ำสีขาว สีน้ำตาล สีเหลือง หรือเลือดไหลออกมาจากสะดือ แสดงว่าคุณอาจติดเชื้อ

การติดเชื้อแคนดิดา (Candida) ซึ่งเป็นเชื้อยีสต์ชนิดหนึ่งที่มักเติบโตในบริเวณที่เปียกชื้นของร่างกาย ทำให้เกิดการติดเชื้อราที่เรียกว่า Candidiasis อาจเกิดขึ้นระหว่างรอยพับของผิวหนัง เช่น บริเวณขาหนีบ ใต้วงแขน รวมถึงสะดือ เชื้อราในสะดือทำให้เกิดผื่นแดงและคันที่สะดือของคุณ และอาจทำให้ของเหลวสีขาวอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังเกิดโรคซีสต์ในสายสะดือ (Urachal Cyst) เป็นการเกิดซีสต์หรือถุงน้ำขึ้นในท่อสะดือที่ไม่ได้ปิดสนิทตั้งแต่หลังเกิดมา ทำให้อาจมีของเหลวสะสมอยู่กลายเป็นถุงน้ำในท่อสะดือ ซึ่งอาจมีของเหลวสีขุ่นหรือมีเลือดปนไหลออกมาจากสะดือร่วมกับอาการสะดือเหม็น โดยมีอาการปวดท้อง เป็นไข้ มีก้อนขี้สะดือ และเกิดอาการปวดเมื่อปัสสาวะ

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวสดมีเคล็ดลับการป้องกันและวิธีการทำความสะอาดสะดือง่าย ๆ เพื่อให้สะดือของทุกท่านแข็งแรงและช่วยป้องกันการติดเชื้อ

  • ล้างทุกวันด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียอ่อน ๆ และน้ำ หรือใช้น้ำเกลือทำความสะอาดสะดือ
  • ใช้ผ้าขนหนูหรือฟองน้ำ เพื่อเข้าไปทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อยู่ภายใน
  • หลังจากอาบน้ำควรซับสะดือด้านในให้แห้งสนิท
  • อย่าทาครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ใด ๆ บริเวณสะดือ เนื่องจากครีมสามารถอุดตันรูและกระตุ้นให้แบคทีเรียหรือยีสต์เติบโต
  • หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่คับ เพราะอาจทำให้สะดือเกิดการระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงการเจาะสะดือ แต่เมื่อเจาะแล้วควรรักษาพื้นที่ให้สะอาด เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ

 

@dr.karanr #duet with @crinc_3 natural ornaments! #schoolwithdrkaran ♬ I’m Coming Out – Diana Ross

ขอบคุณที่มาจาก The Sun Healthline Indy100

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน