“เสถียร จันทิมาธร”

สามก๊กสำนวน เจ้าพระยาพระคลัง(หน) บรรยายว่า ฝ่ายเล่าปี่จึงปรึกษาด้วยขงเบ้งว่า “โจโฉยกทัพมาครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เกลือกจะยกติดตามมาอีกเราจะคิดอ่านประการใด”

ขงเบ้งจึงว่า

“อันจะอยู่เมืองกังฉอนี้เห็นขัดสนนัก ถ้าโจโฉยกมาก็จะเสียทีอีก ขอให้ท่านยกไปอยู่เมืองกังตั๋งอาศัยซุนกวนเถิด ถ้าแลโจโฉรู้ว่าท่านอยู่กับซุนกวนก็จะตามไป ดีร้าย โจโฉกับซุนกวนก็จะผิดใจกันขึ้น เราก็จะอยู่ระหว่างกลาง

“ถ้าใครเพลี่ยงพล้ำลงเห็นได้ทีเราก็จะซ้ำเอาเมื่อปลายมือ เห็นจะได้ชัยชนะโดยง่าย”

เล่าปี่จึงว่า “ซึ่งท่านคิดทั้งนี้ก็ชอบอยู่ แต่ซุนกวนนั้นมีผู้กอปรด้วยสติปัญญาทำนุบำรุงเป็นอันมากเกลือกจะมิยอมให้อยู่ก็จะอัปยศแก่เขา”

ขงเบ้งหัวเราะแล้วจึงตอบว่า

“โจโฉยกกองทัพมาครั้งนี้เอิกเกริกดังแผ่นดินจะถล่ม เห็นว่าซุนกวนจะสะดุ้งตกใจอยู่ ดีร้ายจะใช้คนสอดแนมมาถึงเรา ถ้าแลผู้ใดมาถึงท่านแล้วข้าพเจ้าจะขออาสาแต่เอาเรือลำหนึ่งไปกับลิ้นข้าพเจ้า 3 นิ้วเท่านั้นไปยุให้ซุนกวนผิดกับโจโฉให้จงได้

“ถ้าโจโฉแพ้ก็จะเข้าช่วยซุนกวน เห็นได้ท่วงทีแล้วเราก็เข้าชิงเอาเมืองเกงจิ๋วเป็นกำไรเปล่า แม้ซุนกวนแพ้เราก็จะคิดแก้ไขชิงเอาเมืองกังตั๋งไว้ได้”

เล่าปี่จึงว่า “อันความคิดทั้งนี้เราก็เห็นด้วยอยู่ แต่ทว่าผู้ใดซึ่งจะมาหาเรานั้นยังไม่เห็นเลย”

พอเล่าปี่ว่าแก่โจโฉยังไม่ทันขาดคำทหารวิ่งเข้ามาบอกว่า “บัดนี้ซุนกวนใช้ให้ โลซกเอาเครื่องเซ่นมา แต่เมืองกังตั๋งจะมาคำนับศพเล่าเปียว”

ขงเบ้งได้ยินดังนั้นก็ตบมือหัวเราะ

สามก๊กสำนวน วรรณไว พัธโนทัย บรรยายว่า เล่าปี่จึงส่งคนไปรับตัวโลซกมา โลซกก็เข้าเมืองไปกระทำคำนับเซ่นไหว้ศพตามประเพณีและมอบของกำนัลให้เล่ากี๋ เล่ากี๋เชิญโลซกไปพบเล่าปี่ เมื่อกระทำคำนับกันแล้วก็เชิญโลซกเข้าไปเสพสุราในห้องโถง

โลซกพูดว่า “ข้าพเจ้าได้ยินกิตติศัพท์ของพระปิตุลามาเป็นเวลาช้านานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้พบปะกระทำคำนับท่านเลยสักครั้งเดียว

“วันนี้โชคดีที่ได้พบ รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างที่สุด เมื่อเร็วๆ นี้ข้าพเจ้าได้ข่าวว่า พระปิตุลาทำศึกกับโจโฉท่านคงจะรู้กำลังของศัตรูเป็นอย่างดี ข้าพเจ้าจึงขออาจเอื้อมถามว่าทหารของโจโฉมีจำนวนมากน้อยสักเพียงใด”

เล่าปี่ตอบว่า “ทหารของข้าพเจ้ามีน้อย นายทหารฝีมือดีก็มีน้อย ฉะนั้น เมื่อทราบว่า โจโฉยกมาถึงที่ใดข้าพเจ้าก็รีบถอยหนี จึงไม่รู้ความจริงในกองทัพของโจโฉเลย”

โลซกว่า “ข้าพเจ้าได้ทราบว่า พระปิตุลาใช้กลอุบายของขงเบ้งเอาไฟเผาทำให้โจโฉขวัญหนีดีฝ่อถึง 2 ครั้ง ไฉนท่านจึงว่า ไม่รู้ความจริงอะไรเกี่ยวกับทัพโจโฉเลย”

เล่าปี่ตอบว่า “ก็มีแต่ขงเบ้งเท่านั้นที่จะรู้เรื่องดี”

หนังสือ “อ่านสามก๊กถกบริหาร” ของ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ กล่าวถึงสถานการณ์เดียวกันนี้และช่วยอธิบาย ขยายความ ให้เกิดความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น

โดยเริ่มจาก ค.ศ.208 ซุนกวนกำจัดหองจอสำเร็จ

ตามมาด้วยผลสะเทือนที่โจโฉเห็นว่า ซุนกวนนั้นมีแววจะขึ้นมาเป็นคู่แข่ง จึงกรีธาทัพลงใต้ตั้งเป้าจะยึดทั้งเกงจิ๋วแลกังตั๋ง

ในปีเดียวกันนั้นเองโลซกจึงแนะนำซุนกวนว่า

“เกงจิ๋วเป็นชัยภูมิสำคัญ ที่ดินอุดมสมบูรณ์ หากได้ครอบครองย่อมเป็นทุนสำหรับงานใหญ่ในวันหน้า เล่าเปียวนั้นเพิ่งเสียชีวิต บุตร 2 คนไม่ลงรอยกัน บรรดาแม่ทัพก็เสียงแตก จะมีก็เพียงเล่าปี่ที่มาอาศัยอยู่ด้วยที่ต้องระวัง หากเล่าปี่เห็นเราเป็นมิตรก็ให้การสนับสนุนครอบครองเกงจิ๋ว มิฉะนั้น ค่อยวางแผนรับมือ ข้าพเจ้าขออาสาไปดูลาดเลาที่เกงจิ๋ว โดยอ้างเหตุร่วมคารวะศพเล่าเปียว ดึงตัวเล่าปี่มาเข้าเป็นพวกรวมทัพเกงจิ๋วร่วมต้านโจโฉ”

แต่ยังไม่ทันที่โลซกจะเดินทางไปถึงเล่าจ๋องก็สวามิภักดิ์ต่อโจโฉและ เล่าปี่ถอนจากซินเอี๋ย โลซกจึงเปลี่ยนไปพบเล่าปี่ที่เตียงบัน

จากนี้จึงเห็นได้ว่า ไม่ว่าทางด้านกังตั๋ง ไม่ว่าทางด้านเกงจิ๋ว ล้วนมีการตระเตรียม คาดหมายและประเมินสถานการณ์

หากมองจากโจโฉ

แม้จะให้ความสำคัญกับเล่าปี่ แต่ให้น้ำหนักไปทางซุนกวนมากกว่า 1 จึงหวังเป็นมิตรกับซุนกวน เพื่อโดดเดี่ยวเล่าปี่ ในอีกด้าน 1 ทั้งซุนกวนและเล่าปี่ก็ไม่วางใจโจโฉ

ซุนกวนกับเล่าปี่จึงอยู่ในฐานะเป็นมิตรกันโดยธรรมชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน