“เสถียร จันทิมาธร”
ไม่ว่าท่าทีของ เตียวเจียว โกะหยง จะเป็น “ด้านหลัก” ของเหล่าขุนนางในแคว้นง่อ หากแต่ในการยืนหยัดของ เตียวเจียว โกะหยง ก็มีกระแส “ต้าน” ปรากฏขึ้น
สามก๊กสำนวน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) บรรยายว่า
ขณะนั้นขุนนางทั้งปวงซึ่งเป็นฝ่ายทหารนั้นก็เห็นด้วยโลซก มิยอมจะให้ไปคำนับ บ้างก็ว่าแก่ซุนกวนจะให้ต่อสู้ ซึ่งเป็นพลเรือนนั้นจะให้ไปคำนับโจโฉ แต่ขืนกันอยู่ฉะนี้ก็หาตกลงข้างไหนไม่
ซุนกวนจึงว่าแก่โลซกและคนทั้งปวงว่า “ท่านจงกลับออกไปก่อนเถิด เราจะตรึกตรองดูก่อน”
แล้วซุนกวนก็ลุกเข้าไปข้างใน ขุนนางทั้งปวงก็กลับออกมา
สำนวน วรรณไว พัธโนทัย บรรยายว่า ขณะนั้นขุนนางฝ่ายบู๊บางคนเห็นด้วยที่จะรบ แต่ขุนนางฝ่ายบุ๋นอยากยอมแพ้
ทั้ง 2 ฝ่ายทุ่มเถียงกันอย่างสาหัส
ฝ่ายซุนกวนกลับเข้าห้องแล้วมีความวิตก กังวล วุ่นวายใจ ไม่เป็นอันกินอันนอน ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี
สำนวน พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช บรรยายว่า
ตอนนั้น ขุนนางฝ่ายบู๊ว่าให้รบ ขุนนางฝ่ายบุ๋นว่าให้ยอม ความคิดยังไม่เป็นเอกภาพ ซุนเฉวียนเข้าพักในห้อง กินนอนไม่สบาย
ตัดสินใจไม่ได้
สํนวน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) บรรยายต่อไปว่า ฝ่ายซุนกวนเข้าไปข้างในมีความวิตกนัก มิได้เป็นกินเป็นนอน ให้กระสับกระส่ายอยู่
นางง่อก๊กไถ้ซึ่งเป็นแม่น้าจึงถามว่า
“แต่ก่อนมาเรามิได้เห็นที่จะกระวนกระวาย แลบัดนี้เหตุผลประการใดจึงมิได้เป็นกินเป็นนอน”
ซุนกวนจึงว่า “ข้าพเจ้าทุกข์ร้อนทั้งนี้ เพราะรู้ข่าวว่าโจโฉยกกองทัพมาตั้งอยู่ชายทะเลจะมาทำร้ายแก่เมืองเรา ข้าพเจ้าปรึกษาด้วยคนทั้งปวงก็มิได้พร้อมกัน ปรึกษาแก่งแย่งกันอยู่ บ้างจะให้ไปอ่อนน้อมแก่โจโฉนั้นก็มี ที่จะให้ต่อสู้นั้นก็มี ข้าพเจ้ามิรู้แห่งที่จะคิดเลย
“ครั้นจะต่อสู้โจโฉเล่าทหารเราก็น้อยเห็นจะสู้มิได้ ครั้นจะออกไปอ่อนน้อมก็มิไว้ใจ ความ 2 ประการนี้ข้าพเจ้าคิดมิตกจึงไม่มีความสบาย”
สำนวน วรรณไว พัธโนทัย บรรยายถึงทางออกที่นางง่อก๊กไถ้เสนอ
“ทำไมท่านจึงลืมคำสั่งของพี่สาวเราก่อนตายล่ะ”
ซุนกวนได้ฟังดังนั้นก็ได้สติ เหมือนคนเพิ่งตื่นจากภวังค์หรือสร่างเมา นึกถึงคำของแม่ได้ ฝ่ายนางง่อก๊กไถ้เห็นซุนกวนยังลังเลใจอยู่จึงพูดว่า
“พี่สาวเราบอกไว้ก่อนตายว่าซุนเซกสั่งไว้ การภายในตัดสินใจไม่ได้ให้ปรึกษาเตียวเจียว การภายนอกตัดสินใจไม่ได้ให้ปรึกษาจิวยี่ ไฉนท่านจึงไม่เรียกจิวยี่มาหารือดูเล่า”
สํานวน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) บรรยายว่า ซุนกวนได้ฟังดังนั้นก็รำลึกขึ้นได้ สว่างหัวอกดังว่านอนหลับตื่นขึ้น มีความยินดีหาที่สุดมิได้ จึงสั่งคนใช้ให้ไปหาจิวยี่ ณ เมืองกวนหยง
พอจิวยี่รู้ว่าโจโฉยกกองทัพมาตั้งอยู่ชายทะเลเมืองเกงจิ๋วจะมาตีเมืองกังตั๋งก็รีบมา
สำนวน วรรณไว พัธโนทัย บรรยายว่า ซุนกวนดีใจยิ่งนักส่งคนไปตามจิวยี่ที่ทะเลสาบโผเอี๋ยง ซึ่งขณะนั้นจิวยี่กำลังฝึกทัพเรืออยู่
ฝ่ายจิวยี่แจ้งว่าโจโฉยกทัพใหญ่มาถึงที่ราบลุ่มแม่น้ำฮั่น ก็รีบกลับมาชุมนุมแม่ทัพ นายกอง เพื่อปรึกษาการทัพ ณ เมืองชีสอง ดังนั้น ก่อนที่คนของซุนกวนจะออกเดินทางจิวยี่ก็เข้ามาถึงก่อนแล้ว
สำนวน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) บรรยายว่า ฝ่ายโลซกแจ้งว่าจิวยี่มาถึงก็รีบไปหาแล้วแจ้งเนื้อความซึ่งซุนกวนปรึกษาหารือ คิดอ่านจะต่อสู้ด้วยกองทัพโจโฉนั้นทุกประการ
จิวยี่จึงว่า “การทั้งนี้ท่านอย่าวิตกเลยไว้เป็นธุระเราจะคิดอ่านกระทำการเอง ท่านจงรีบไปหาขงเบ้งให้มาพบเราหน่อยหนึ่งเถิด”
โลซกก็ขึ้นม้ารีบมาหาขงเบ้ง
สำนวน วรรณไว พัธโนทัย ให้รายละเอียดลึกซึ้งขึ้นไปอีกว่า อันโลซกกับจิวยี่นั้นเป็นเพื่อนเกลอ รักใคร่กันมาก เมื่อโลซกแจ้งว่าจิวยี่มาถึงก็รีบออกไปรับ พลางแจ้งเรื่องทั้งปวงให้จิวยี่ทราบ
เป็นความฉับไวของจิวยี่ เป็นความฉับไวของโลซก
ไม่เพียงแต่โลซกเท่านั้น สำนวน พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช บรรยายว่า โจวอวี๋เพิ่งจะพัก ทันใดมีรายงานว่าจางเจา กู้หยง จางหง ปู้จื้อ 4 คน ขอพบ
ตามสำนวน วรรณไว พัธโนทัย ก็คือ
ขณะที่จิวยี่กำลังพักผ่อนอยู่นั้นทหารเข้ามารายงานว่า เตียวเจียว โกะหยง เตียนเหียน โปจิด มาหา
จิวยี่จึงออกไปเชิญขุนนางผู้ใหญ่เหล่านั้นเข้ามาให้นั่งแล้วกระทำคำนับต่อกัน