วิถีแห่งอำนาจโลซก : โฉมสะคราญ แห่งกังตั๋ง (41)
"เสถียร จันทิมาธร"
สํานวน เจ้าพระยาพระคลัง(หน) บรรยายว่า ขงเบ้งจึงบอกว่า "เมื่อเรายังอยู่เขาโงลังกั๋งนั้นแจ้งว่าโจโฉให้ทำปราสาทไว้แห่งหนึ่งอยู่ริมแม่น้ำเตียงโห เป็นที่สบาย แล้วจัดเอาผู้หญิงที่รูปงามมาไว้เป็นอันมาก
"ด้วยมีน้ำใจกำเริบในมาตุคามอยู่
"แล้วรู้ว่านางเตียวก๊กโล่อยู่ ณ เมืองกังตั๋ง มีบุตรหญิง 2 คนรูปร่างงามหาหญิงใดเสมอมิได้ โจโฉมีน้ำใจผูกพันอยู่ไว้ว่า "ถ้ารบเมืองกังตั๋งได้แล้วจะรับเอาหญิง 2 คนนี้ไปไว้เป็นที่บำเรอของตัว ถึงมาตรว่าจะตายก็มิได้พะวักพะวนน้ำใจ
"ซึ่งโจโฉยกทหารมาถึงร้อยหมื่นนี้ก็เพราะปรารถนาหญิง 2 คนนี้เป็นเค้ามูล
"แม้ท่านเอาทองร้อยตำลึงไปให้นางเตียวก๊กโล่ ซื้อเอาบุตร 2 คนนั้นมาส่งให้แก่โจโฉสมเหมือนความปรารถนาแล้วโจโฉก็จะยกทัพกลับไปเป็นมั่นคง ขอท่านได้คิดอ่านปรองดองกันกระทำตามถ้อยคำข้าพเจ้าว่านี้เถิด"
จิวยี่จึงว่า "ซึ่งโจโฉมีความผูกพันหญิง 2 คนนี้เหตุไฉนจึงจะรู้แน่ ยังมีสิ่งใดเป็นสำคัญอยู่บ้าง"
ขงเบ้งจึงว่า "อันโจโฉรักหญิง 2 คนนี้ ได้ผูกเป็นโคลงไว้ ข้าพเจ้าจำได้เป็นสำคัญอยู่"
ขงเบ้งก็ว่าโคลงนั้นให้จิวยี่ฟังเป็นใจความว่า "ปารัศว์ซ้าย ขวา ซึ่งเราทำไว้ชื่อว่า หยกหลง กับ อิมฮอง ข้าจะกอดนาง 2 เกี้ยวไว้ทั้งซ้าย ขวา ให้มีความสุขทุกเวลา มิให้อนาทรเลย"
เนื้อความตรงนี้ "สำคัญ" ยิ่งนัก
สามก๊กสำนวนใหม่ วรรณไว พัธโนทัย บรรยายว่า ขงเบ้งตอบว่า "ถ้ากังตั๋งยอมสละคน 2 คนนี้ไปก็เหมือนสละใบไม้ใบเดียวให้หลุดร่วงไปจากต้นไม้ใบหนา หรือเสมือนข้าวเปลือกเมล็ดเดียวหายไปจากยุ้งฉางใหญ่ ฝ่ายโจโฉได้คนทั้ง 2 คนแล้วก็จะมีความสุขเกษมเปรมปรีดิ์ยอมถอยทัพกลับอย่างแน่นอน"
จิวยี่ถามย้ำอีกว่า "2 คนที่ท่านว่านั้นคือใคร"
ขงเบ้งตอบว่า "เมื่อครั้งข้าพเจ้ายังอยู่ที่ตำบลหลงจงได้ยินว่าโจโฉสร้างปราสาทใหญ่ไว้เป็นเรือนตายที่ริมแม่น้ำเจียงโหให้ชื่อว่า "ปราสาทนกยูงทองแดง"
"เป็นปราสาทใหญ่โตโอ่อ่า แล้วให้เสาะหาหญิงจากทั่วทุกถิ่นมาเลี้ยงไว้เป็นนางบำเรอ อันวิสัยของโจโฉนั้นมักมากในกามคุณ เขารู้ข่าวมานานแล้วว่าที่กังตั๋งมีพี่น้อง 2 สาว ผู้พี่ชื่อไต้เกี้ยว ผู้น้องชื่อเสียวเกี้ยว เป็นบุตรีของเกี้ยวกง
พี่น้อง 2 สาวนี้งามจนกระทั่งห่านป่าได้เห็นก็เต้นเร่า ปลาในน้ำเห็นก็หลงชมจนจมน้ำตาย เมื่อแสงจันทร์ต้องหน้าเธอ แม้ดอกไม้ก็ได้อาย
"โจโฉถึงกับตั้งสัตย์ปฏิญาณว่า ความปรารถนาข้อแรกของเขาคือ พิชิตดินแดนภายในทะเลทั้ง 4 ให้ได้แล้วจัดตั้งมหาอาณาจักรขึ้น ข้อที่ 2 คือต้องเอา 2 สาวไต้เกี้ยวและเสียวเกี้ยวในกังตั๋งมาไว้เป็นนางบำเรอในปราสาทนกยูงทองแดงให้จงได้ เพื่อความสุขสำราญในบั้นปลายของชีวิต
โจโฉพูดว่า "ถ้าสำเร็จประสงค์ทั้ง 2 ประการนี้แล้วถึงจะตายก็ไม่เสียดายเลย"
"การที่โจโฉทุ่มกำลังตั้งร้อยหมื่นลงมาตีเมืองใต้นี้ก็หวังจะได้ 2 สาวนี้ไปเท่านั้นเอง ไฉนท่านจึงไม่ไปหาเกี้ยวกง เอาทองพันตำลึงไปซื้อลูกสาว 2 คนนั้นส่งไปให้โจโฉ โจโฉได้นางงามทั้ง 2 ไปแล้วก็ย่อมสมใจทุกประการคงจะต้องยกทัพกลับไปแน่
"อุบายนี้ฮวมเล้เคยใช้ได้ผลมาแล้ว โดยยกนางไซซีให้แก่พระเจ้ากรุงง่อ ไฉนท่านไม่ทำตามอย่างเสียโดยเร็วเล่า"
จิวยี่ถามว่า "ซึ่งท่านว่าโจโฉต้องการ 2 สาวไต้เกี้ยวและเสียวเกี้ยวท่านเอาที่ไหนมาพูด"
ขงเบ้งตอบว่า "โจสิดลูกชายคนเล็กของโจโฉซึ่งมีสมญานามว่าจื่อเจี้ยน เป็นกวีเอกได้แต่งคำประพันธ์ตามบัญชาของพ่อให้ชื่อ บทสดุดีปราสาทนกยูงทองแดง ซึ่งในคำประพันธ์นี้แสดงชัดว่าโจโฉต้องการเป็นฮ่องเต้ และสาบานว่าจะต้องเอา 2 สาวไต้เกี้ยวและเสียวเกี้ยวมาไว้เป็นนางบำเรอให้จงได้"
จิวยี่ถามว่า "ท่านยังพอจำคำประพันธ์นั้นได้หรือไม่"
ขงเบ้งตอบว่า "ข้าพเจ้าชอบคำร้อยกรองอันไพเราะเพราะพริ้งของคำประพันธ์นั้นมากจึงอุตส่าห์ท่องจำไว้ขึ้นใจทีเดียว"
จิวยี่จึงว่า "ถ้าเช่นนั้นขอท่านกรุณาว่าให้ข้าพเจ้าฟังหน่อยเถิด"
ตรวจสอบผ่านสำนวน พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช ยืนยันว่าสำนวนแปล เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตัดข้ามไปหลายจุด
ถือได้ว่าสำนวน วรรณไว พัธโนทัย สมบูรณ์
ขณะเดียวกัน สำนวน พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช ทำวงเล็บอธิบายด้วยว่า สำนวนจีนบรรยายว่า นางงามขนาดปลาหยุดสะบัดครีบจมลง นกหยุดกระพือปีกตกลงจากท้องฟ้า แม้พระจันทร์ยังหลบเข้ากลีบเมฆ ดอกไม้งามหุบกลีบด้วยความอาลัยในความงามของนาง
เป็นความงามของ ไต้เกี้ยว เสียวเกี้ยว
กระนั้น ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นยังเป็นกวีนิพนธ์ของโจสิดซึ่งร้อยเรียงออกมาตามความต้องการของโจโฉผู้บิดา
ยิ่งเทียบสำนวน ยิ่งมากด้วยความตื่นเต้น