คอลัมน์ ขนหัวลุก

ใบหนาด

“คนบ้านขาม” เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของคนผิดคำสาบาน

คนที่ชอบโกหกจนติดปาก พูดจาพล่อยๆ ไม่รักษาคำพูดของตัวเอง หรือชอบ “ทวนสาบาน” มักจะประสบหายนะหรือเหตุร้ายน่าสยดสยองเสมอ เรื่องนี้เป็นความจริงครับ

สมัยนั้นผมอยู่ที่บ้านขาม อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มีวัดสระบัวงาม เจ้าอาวาสคือพระครูโสภณ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งอำเภอ หรือทั้งจังหวัด “เมืองช้าง” ก็ว่าได้

ท่านเป็นพระกรรมฐานและเชี่ยวชาญทางคาถาอาคม เก่งกาจในทางไสยเวท อีกทั้งช่วยรักษาโรคให้ชาวบ้านทั้งหลาย ช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ด้วยจิตเมตตาและเปี่ยมกุศลของท่าน จนชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลถึงจังหวัดใกล้เคียง

ว่ากันว่าหลวงพ่อท่านได้คัมภีร์มาจากถ้ำแห่งหนึ่งในเขตจังหวัดน่าน เมื่อครั้งที่ท่านออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรในสมัยหนุ่ม…

เป็นคัมภีร์จากโครงกระดูกครับ!!

คืนหนึ่งขณะที่หลวงพ่อนั่งปฏิบัติกรรมฐานอยู่ในถ้ำ อำนาจพลังจิตทำให้ท่านมองเห็นโครงกระดูกมนุษย์ จึงได้แผ่เมตตาให้วิญญาณที่ล่องลอยสิงสู่อยู่ตามวิบากกรรม จงไปผุดไปเกิดในภพใหม่เสียเถิด

จู่ๆ ก็เกิดเสียงลมอื้ออึงอยู่ภายนอก ราวกับเกิดมหา วาตะรุนแรงเหลือประมาณ…แล้วเสียงเยือกเย็นก็ดังโหยหวนมากับเสียงลม ท่ามกลางความมืดมิดน่าพรั่นพรึงในยามราตรี

เสียงจากผู้ไม่มีร่างกายบอกกล่าวว่า ขอให้หลวงพ่อนำเอาคัมภีร์ที่ฝังอยู่ทางขวามือของซากโครงกระดูกนั้นไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นทุกข์ด้วย…หลวงพ่อก็รับคำ เสียงโหยหวนนั้นจึงจางหายไป

พระครูโสภณเคยเล่าให้ญาติโยมฟังว่า ในที่สุดท่านก็ขุดพบคัมภีร์นั้นสมจริงตามที่วิญญาณบอกไว้ ต่อมาท่านก็ได้ศึกษาจนแตกฉาน นำไปปฏิบัติได้ผลมาจนบัดนี้!

ลือกันว่าคำจารึกในคัมภีร์นั้นมีทั้งทางดีและทางร้าย เนื่องจากมีคาถาอาคมและไสยเวทต่างๆ เช่น การรักษาโรคร้าย การทำยาสั่งและเสน่ห์ยาแฝด เป็นต้น แต่หลวงพ่อท่านเลือกนำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปมาใช้เท่านั้น

เช่น ใครเจ็บป่วยมาท่านก็รักษา ใครโดนยาสั่งหรือโดนเสน่ห์ฝังรูปฝังรอยมาท่านก็ช่วยแก้ไขให้…แม้แต่คนติดเหล้าที่มีอยู่ไม่น้อย ต้องการจะเลิกดื่มสุราก็มาหาท่านเช่นกัน

ผมเคยตามพ่อไปที่วัดวันหนึ่ง ได้เห็นตาเตยขี้เมาถูกเมียลากมาขอให้หลวงพ่อช่วยจัดการ “บวชเหล้า” ให้แกสัก 2 ปีเถิด จะได้เลิกเมามายมาทำมาหากินเหมือนคนอื่นเสียที

คำว่า “บวชเหล้า” หมายถึงผู้ที่ติดสุราต้องสาบานว่าตนจะหยุดดื่มเหล้า 1 ปี หรือ 2-3 ปีก็แล้วแต่จะตั้งจิตไว้

ถ้าอดเหล้าไปได้ระยะหนึ่งเห็นว่าตนทนไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องไปลาบวช หรือไปถอนคำสาบานกับหลวงพ่อเอง…แต่ถ้าใครไม่มาลาบวชแล้วทวนสาบานกลับไปดื่มเหล้าอีก ก็จะต้องมีอันเป็นไปตามคำสาบาน!

หลวงพ่อให้ตาเตยเขียนชื่อและวัน เดือน ปีเกิดไว้ให้ท่าน แล้วถามว่าจะบวชเหล้ากี่ปี? ตาเตยผอมดำ ผมขาวโพลน นุ่งโสร่งเก่าๆ ตัวเดียว มีผ้าขาวม้าห่มแบบสไบเฉียงก็หลุดปากว่า…ผมจะหยุดกินเหล้าไปจนตายเลยครับ

ลูกเมียรีบร้องห้ามว่าขอแค่ปีเดียวก็พอ ต่อจากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ แต่ตาเตยยืนกรานว่าจะขออดเหล้าจนวันตายจริงๆ จนเกิดโต้เถียงกับลูกเมียอื้ออึง

ในที่สุดก็สาบานว่าจะอดเหล้า 2 ปี!

พ่อพาผมกลับบ้านเสียก่อน เลยไม่ได้ยินว่าตาเตยแกสาบานไว้ว่ายังไง?

ต่อจากนั้นชาวบ้านก็คอยดูว่าตาเตยจะอดเหล้าไปได้กี่วัน ไม่ช้าคงจะวิ่งแจ้นไปหาหลวงพ่อ ขอถอนคำสาบานกับท่านเพราะทนอดเหล้าต่อไปไม่ไหว

ต่างผิดคาดไปตามๆ กันเมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือนๆ ก็ไม่เห็นตาเตยแตะต้องสุราเหมือนเช่นเคย หน้าตาค่อยผ่องใสขึ้น ร่างกายแข็งแรง กลายเป็นขยันทำมาหากินจนชาวบ้านแปลกใจไปตามๆ กัน

เวลาผ่านไปราว 5-6 เดือน จู่ๆ ก็เกิดเหตุขนหัวลุกขึ้นมา!

พลบค่ำ วัวควายกำลังจะเข้าคอก เสียงร้องโหยหวนก็ดังมาจากทุ่งหลังบ้าน พวกเราตกใจวิ่งออกไปก็ได้ยินถนัดหู…โว้ย! ผีหลอก…ช่วยด้วย!!

ตาเตยนั่นเอง…แกวิ่งมาล้มฟุบข้างๆ บ้าน นัยน์ตาเหลือกลาน ชี้ไม้ชี้มือไปที่ทุ่งเปลี่ยวด้านหลัง ร้องว่า…หัวกะโหลกตาโบ๋! โครงกระดูกทั้งนั้นเลย…มันจะฆ่ากู!

ขาดคำก็สำลักเลือดพรวดแดงฉาน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ลูกเมียแกร้องไห้โฮ…ตาเตยขาดใจตายตรงนั้นเอง! บางคนบอกว่าแกเป็นวัณโรคตาย แต่คนส่วนมากไม่เชื่อหรอกครับ เพราะได้กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งจากศพตาเตยกันทุกคน!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน