“เสถียร จันทิมาธร”

สามก๊กสำนวน เจ้าพระยาพระคลัง (หน) บรรยายว่า จิวยี่ก็พาขงเบ้งลงเรือลำเดียวกันไป อันเทียเภา โลซก นั้นเป็นปลัดกองคุมทหารเป็นอันมากแล้วยกกองทัพข้ามอ่าวไปถึงปากแม่น้ำเมืองกังแฮ จิวยี่จึงให้หยุดกองทัพเรือทอดไว้แล้วให้ทหารขึ้นบกตั้งค่ายรายกันไปตามทางตะวันตก

ขงเบ้งนั้นจึงลงเรือน้อยทอดอยู่ใกล้เรือรบแม่ทัพ

จิวยี่จึงให้หาขงเบ้งขึ้นมาบนเรือแล้วแกล้งปรึกษาหวังจะให้ขงเบ้งไปให้โจโฉจับฆ่าเสีย “บัดนี้โจโฉซ่องสุมเสบียงไว้ ณ เขากิสาน แดนเมืองซงหยง อันตัวท่านนี้ก็อยู่ในแดนเมืองซงหยงแล้วชำนาญการป่าเขาทุกตำบล เราจะเกณฑ์ทหารให้ท่านพันหนึ่งเร่งยกทัพกลับไปบอกเล่าปี่ขอเอากวนอู เตียวหุย จูล่ง รีบยกทัพไปตัดเอาเสบียงโจโฉเสียให้ได้เราจะได้คิดการรบพุ่งสะดวก”

ขงเบ้งก็รับคำลากลับมาเรือน้อย

การสนทนาระหว่างจิวยี่กับขงเบ้งครั้งนี้น่าคิด สำนวน เจ้าพระยาพระคลัง(หน) “อธิบาย” อย่างแจ้งชัดว่า 1 แกล้งปรึกษา 1 หวังจะให้ขงเบ้งไปให้โจโฉจับฆ่าเสีย

แต่สำนวน วรรณไว พัธโนทัย ไม่มีการอธิบาย เพียงแต่ “ถอด” ออกมาตรงกันในเรื่องความคิดของขงเบ้งที่ว่า “เมื่อเขาเกลี้ยกล่อมเราไม่ได้แล้วเขาก็ต้องฆ่าเราเสีย ถ้าเราปฏิเสธไม่ยกไปเราก็จะกลายเป็นตัวตลกให้เขาเย้ยหยัน เราจึงควรรับปากแล้วจึงค่อยคิดแก้ไขภายหลังดีกว่า”

คิดดังนี้แล้วขงเบ้งก็รับคำจิวยี่ จิวยี่ดีใจยิ่งนัก

การ “แกล้งปรึกษา” ครั้งนี้แจ่มชัดอย่างยิ่งว่า ไม่ได้เป็นเรื่อง 2 ต่อ 2 หากแต่มีโลซกร่วมรับฟังคำสนทนาอยู่ด้วย

ตรงนี้เห็นชัดจาก สำนวนแปล วรรณไว พัธโนทัย

เมื่อขงเบ้งกลับไปแล้วโลซกแอบถามจิวยี่ว่า “ซึ่งท่านให้ขงเบ้งไปตัดเสบียงโจโฉเช่นนี้มีประสงค์สิ่งใด”

จิวยี่จึงตอบว่า “ข้าพเจ้าต้องการจะฆ่ามันเสีย แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาของคนทั้งปวงจึงขอยืมมือโจโฉฆ่ามันแทนในภายภาคหน้าจึงไม่มีภัยแก่เรา”

โลซกจึงรีบไปหาขงเบ้งเพื่อดูว่าขงเบ้งจะเสียกลหรือไม่

ก็เห็นขงเบ้งเป็นปกติอยู่ ไม่แสดงกิริยาอึดอัดวุ่นวายใจแต่อย่างใด สาละวนอยู่กับการจัดทัพ โลซกเห็นเช่นนั้นอดรนทนมิได้จึงถามขงเบ้งว่า

“ท่านยกไปครั้งนี้คิดว่าจะทำการได้สำเร็จหรือ”

ขงเบ้งหัวเราะแล้วว่า “ข้าพเจ้าชำนาญการรบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางเรือ ทางบก บนหลังม้าหรือบนรถ ฉะนั้น อย่างไรเสียก็จะต้องสำเร็จ ข้าพเจ้าไม่ใช่คนอย่างท่านและจิวยี่ซึ่งชำนาญการรบเพียงอย่างเดียว”

บทบาทของโลซกจากปลายปากกาของหลอกวนจงตอนนี้มีความสำคัญ

สํานวน เจ้าพระยาพระคลัง(หน) บรรยายว่า โลซกเอาคำขงเบ้งนั้นมาบอกแก่จิวยี่ทุกประการ จิวยี่แจ้งดังนั้นก็โกรธจึงว่า

“ขงเบ้งนี้พูดจาดูหมิ่นเราว่าไม่ชำนาญการบก

ครั้นเราจะมิไป บัดนี้ขงเบ้งก็จะซ้ำติเตียน เราอย่าให้ขงเบ้งไปเลยเราจะคุมทหารหมื่นหนึ่งยกไปตัดเสบียงโจโฉเสีย”

โลซกได้ฟังดังนั้นก็กลับมาบอกขงเบ้งตามคำจิวยี่ทุกประการ

ขงเบ้งก็หัวเราะแล้วว่า “อันความคิดจิวยี่นั้นใช่จะใช้เราโดยสุจริตหามิได้ แกล้งจะให้เราไปตายเสียด้วยฝีมือแลความคิดโจโฉ ซึ่งเราว่าจิวยี่ไม่สันทัดการบกนั้นเพราะจะแกล้งยั่วใจจิวยี่หวังจะให้แจ้งว่าเรารู้เท่าอยู่

โลซกได้ฟังดังนั้นก็สรรเสริญขงเบ้งว่า “รู้การลึกซึ้งหาผู้ใดเสมอมิได้”

สำนวน วรรณไว พัธโนทัย บรรยายว่า โลซกรีบกลับไปหาจิวยี่ในคืนนั้นแล้วเล่าเรื่องที่ขงเบ้งพูดมาให้ฟังทุกประการ

จิวยี่ฟังแล้วก็สั่นศีรษะกระทืบเท้าพลางว่า

“ขงเบ้งผู้นี้เฉลียวฉลาดกว่าข้าพเจ้าถึง 10 เท่าจริงๆ ถ้าเราไม่กำจัดมันเสียแต่บัดนี้นานไปจะเป็นภัยแก่บ้านเมืองเราอย่างแน่แท้”

สํานวนแปล พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช บรรยายตั้งแต่เริ่มตอนที่ 45 เลยว่า หลังจาก โจวอวี๋รู้ว่าขงหมิ่งคิดอย่างไรก็รู้สึกชังน้ำหน้ามีความคิดอยากฆ่าขงหมิ่ง

และเมื่อผ่านการวางกลยุทธ์กระทั่งถูกขงหมิ่งตอบโต้ด้วยปัญญา

บทสรุปจากหลู่ซู่ต่อกรณีนี้ต่อโจวอวี๋คือ “ตอนนี้เป็นตอนที่ต้องใช้คนต้องคิดถึงประเทศชาติก่อน ไว้รอตีเฉาเชาแตกแล้วค่อยมาคิดก็ยังไม่สายเกินไป”

โจวอวี๋เห็นด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน