“เสถียร จันทิมาธร”
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกวนอู ไม่ว่าจะเป็นทางด้านโลซก ล้วนมีการตระเตรียม สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดของทั้ง 2 ฝ่าย
คู่คิดของโลซกคือลิบอง
“ถ้ากวนอูเอาทหารมาด้วยข้าพเจ้ากับกำเหลงจะซุ่มทหารไว้ตามริมฝั่งน้ำแล้วใช้ม้าฬ่อเป็นสัญญาณในการเข้าตี ถ้ากวนอูไม่ได้เอาทหารมาด้วยข้าพเจ้าจะซุ่มมือมีดมือขวาน 50 คนไว้ในห้องโถงเพื่อให้รุมสังหารกวนอูเสียในงานเลี้ยง”
เมื่อเตรียมการเรียบร้อยรุ่งขึ้นโลซกให้คนไปลาดตระเวนอยู่ริมฝั่งน้ำ
ครั้นเวลาสายเห็นเรือลำหนึ่งมีฝีพายไม่กี่คนมุ่งมาที่หัวเรือปักธงแดงเขียนอักษร “กวน” เรือลำนั้นเข้ามาใกล้
ทุกคนเห็นกวนอูโพกศีรษะด้วยผ้าสีเขียว สวมเสื้อครุยสีเขียว นั่งอยู่ในเรือ
จิงฉอง แบกง้าวใหญ่อยู่เคียงข้าง มีทหารติดตามมา 8-9 คนล้วนคาดกระบี่คนละเล่ม โลซกเห็นเช่นนั้นก็นึกพรั่นอยู่ในใจ
จึงออกไปรับกวนอูเชิญเข้ามายังเรือนรับรอง
ที่กล่าวมาเป็นยุทธนิยายสามก๊กสำนวนแปล วรรณไว พัธโนทัย มีความจำเป็นต้องเปรียบเทียบกับสำนวนแปล เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
นั่นคือ
ฝ่ายผู้ถือหนังสือกลับมาถึงค่ายจึงบอกโลซกว่า “กวนอูยินดีจะมาพรุ่งนี้” โลซกได้ฟังก็ดีใจจึงปรึกษากับลิบองว่า
“อันกวนอูนั้นมีฝีมือ จะมาพรุ่งนี้เราคิดอ่านจับประการใด”
ลิบองจึงว่า “กำเหลงกับข้าพเจ้าก็จัดแจงทหารซุ่มอยู่ข้างนอกเป็น 2 กอง ถ้าเห็นกวนอูไม่มี ทหารมาเราจะจัดซุ่มทหารไว้แต่ข้างในสัก 50 คน ถ้าได้ทีแล้วจึงจะช่วยกันจับกวนอูฆ่าเสีย แม้กวนอูมีทหารมาด้วยข้าพเจ้ากับกำเหลงได้ยินเสียงประทัดเมื่อใดก็จะคุมทหารตีกระหนาบเข้าจับกวนอูฆ่าเสียให้ได้”
โลซกเห็นชอบด้วย
ครั้นเวลารุ่งเช้าจัดแจงการตามซึ่งคิดไว้แล้วให้ทหารไปคอยดูกวนอูว่าจะมีทหารมาด้วยหรือไม่ ทหารนั้นกลับมาบอก โลซกว่า
“ข้าพเจ้าเห็นกวนอูลงเรือเร็วมาลำหนึ่งมีพลแจวประมาณ 20 คน กับธงแดงสำหรับกวนอู แลกวนอูนั้นแต่งตัวโอ่โถง ใส่เสื้อแพรสีม่วง โพกแพรสีเขียว มิได้ใส่เกราะ เห็นจิวฉองนั้นแบกง้าวนั่งเคียงกวนอูอยู่ แลทหารซึ่งมีฝีมือนั้นก็มาด้วยกวนอูสัก 7 คน 8 คน”
โลซกได้ฟังดังนั้นก็ออกไปรับ เห็นกวนอูแต่งตัวมีสง่า แลทหารก็มาด้วยเป็นหลายคนโลซกคิดพรั่นอยู่ เกลือกจะทำการไม่สำเร็จ
ไม่ว่าสำนวนแปล เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ไม่ว่าสำนวนแปล วรรณไว พัธโนทัย ไม่ว่าสำนวน พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช
ล้วนมีพื้นฐานมาจากปลายพู่กันของ “หลอกว้านตง”
อย่าได้แปลกใจหากความองอาจสง่างามจะเป็นของกวนอู อย่าได้แปลกใจหากความหวาดหวั่นพรั่นพรึงจะเป็นของโลซก
แม้ว่าโลซกจะมี “ลิบอง” อยู่เรียงเคียงข้าง
รายละเอียดปลีกย่อยหากมองอย่างเปรียบเทียบสำนวน วรรณไว พัธโนทัย กับสำนวนเจ้าพระยาพระคลัง (หน) อาจมีความแตกต่างดำรงอยู่
ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
กระนั้น ความโน้มเอียงก็ออกมาไปในทางที่ว่า กวนอูเดินทางเข้าถ้ำเสือ โลซกรอคอยพร้อมกับแผนร้ายอันแยบยล
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง 2 ฝ่ายล้วนหวาดระแวงกัน
การพบระหว่างกวนอูกับโลซก ณ บริเวณเรือนรับรองปากแม่น้ำลกเค้า เป็นการพบในพื้นที่อันเป็นอิทธิพลของง่อก๊ก
บรรยากาศและสีสันละม้ายงานเลี้ยงที่หงเหมิน
เพียงแต่การเลี้ยงที่หงเหมินเป็นการพบระหว่างเซี่ยงหวี่กับเล่าปัง เงาสะท้อนที่สัมผัสได้คือ ความมาดร้ายที่มีต่อกัน เป็นการนัดพบกันอย่างมีการวางแผน เป็นการนัดพบกันอย่างมีเจตนาร้ายแฝงอยู่
นี่ย่อมคล้ายกับการพบระหว่างกวนอูกับโลซกครั้งนี้ เป็นเงาสะท้อนแห่งปัญหาอันดำรงอยู่ระหว่างแคว้นง่อกับแคว้นจก
ปัญหาใจกลางก็คือ “เกงจิ๋ว”