เก็บสตรอว์เบอร์รี่ ไร่ผากำนัน-เขาค้อ – วันก่อนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ชวนลงพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อไปเยี่ยมชมความคืบหน้าโครงการการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของ ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนบริษัท อุตสาหกรรมการเกษตรเขาค้อ จำกัด นักวิจัยได้ร่วมคิดค้น ‘การผลิตน้ำเสาวรสเสริมพรีไบโอติกบรรจุกระป๋อง’ ขณะที่บริษัท สุธัมบดี จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ เขาค้อเฮอร์เบอรี่ (Khaokhoherbary) ผู้วิจัยนำเสนอสินค้าใหม่คือ เครื่องดื่มสปาร์กกิ้งจากขิงออร์แกนิก และสเปรดช็อกโกแลตรสขิงลดไขมัน ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนดีต่อสุขภาพและจะออกสู่ตลาดในไม่ช้า

หลังเสร็จสิ้นภารกิจมีโอกาสไปลุยสวนสตรอว์เบอร์รี่บนเขาค้อ ที่มีอยู่หลายสวน และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ผู้มาเยือนได้ฟินกับการเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ในไร่ที่กำลังออกดอกออกผล แดงสวย

ไร่ผากำนัน ต.เขาค้อ บริเวณทุ่งกังหันลม เป็นอีกแห่งที่เปิด เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมาหลายปี และได้รับเสียงชื่นชมจาก ผู้มาเยือนว่าราคาที่พักหลักร้อย แต่วิวหลักล้าน เนื่องจากอยู่บนเนินภูเขาสูง มองไปเป็นภูเขาอีกลูก และได้เห็นกังหันลมอันใหญ่ยักษ์เป็นทิวแถวชัดเจน ช่วงพระอาทิตย์ตกเป็นวิวที่สวยงามมาก

ที่นี่มี ‘คุณอดิศักดิ์ บำรุงคีรี’ หนุ่มม้ง วัย 54 ปี อดีตกำนัน ต.เขาค้อ เป็นเจ้าของ เขาเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ปี 2542 เป็นกำนันตำบลเขาค้อ 5 ปี ตอนนี้ประกอบอาชีพเกษตร ทำไร่สตรอว์เบอร์รี่ สายพันธุ์พระราชทาน 80 ในพื้นที่ 7 ไร่ โดยทำ 7 ปีแล้ว อยู่ที่ทุ่งกังหันลม ที่มีความสูง 950 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งนอกจากจะเปิดให้ นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมแปลงสตรอว์เบอร์รี่ที่กำลังออกดอกออกผลแล้ว ยังมีบริการให้กางเต็นท์ด้วย ถ้านำเต็นท์มาเองคิดคนละ 150 บาทถ้าใช้เต็นท์ของไร่ที่นอนได้ 3-4 คน คิด 800 บาท ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า แต่สามารถสั่งทานได้

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ เขาให้ข้อมูล ว่าหากจะให้สตรอว์เบอร์รี่ได้ผลผลิตที่ดีต้องเริ่มต้นจากการเลือก สายพันธุ์ที่ดี ซึ่งที่ไร่ใช้พันธุ์พระราชทาน 80 เนื่องจากเหมาะกับพื้นที่ที่สภาพอากาศไม่จำเป็นต้องเย็นมากก็สามารถปลูกได้ โดยให้เพื่อน ที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เพาะไหลมาให้ ต้นทุนตกประมาณไหลละ 2-3 บาท เริ่มเพาะไหลตั้งแต่เดือนมี.ค.-เม.ย. จนพร้อมปลูกประมาณเดือนส.ค. หรือเดือนก.ย.เป็นอย่างช้า ต้องเร่งปลูกให้หมดภายใน 2 เดือนนี้ หลังจากนั้น 2 เดือนจึงจะให้ผลผลิตและสามารถเก็บ เกี่ยวได้ โดย 1 ไหลจะแตกหน่อออกไปอีก 3-4 หน่อ ในแต่ละหน่อ ออกดอก 1 พวง

วิธีการปลูก ต้องยกร่อง ใส่ปุ๋ยคอกจำพวกขี้หมูหรือขี้ไก่เป็นหลัก จากนั้นจึงรองพื้นและคุมด้วยใบตองตึง หรือพลาสติกก็ได้ จากนั้นเจาะรู โดยเว้นระยะห่างแต่ละรู 20-30 ซ.ม. ใช้ระบบน้ำหยด ปลูกไหลสตรอว์เบอร์รี่ตามรูที่เจาะไว้ หลังจากปลูกแล้วประมาณ 15-20 วัน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15 หรือปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 เพื่อกระตุ้นให้โตเร็วขึ้น จากนั้นดูแลรดน้ำอย่างเพียงพอด้วยระบบน้ำหยด หากมีระบบน้ำ สปริงเกลอร์แบบฝอยร่วมด้วยจะช่วยให้สตรอว์เบอร์รี่มีความสดชื่น และเป็นการล้างฝุ่นไปในตัว กรณีใบสตรอว์เบอร์รี่มีลักษณะเป็นใบแก่เยอะให้ลอกใบ โดยการเล็มเด็ดใบออก เพื่อให้ต้นไม่โทรม

สำหรับโรคและแมลงที่ต้องระวังคือโรคเพลี้ยไฟ และโรคตระกูลไรที่กำจัดยากและเป็นปัญหาใหญ่ มักเกิดขึ้นในช่วงแล้งจัดหรือหลังฤดูฝน ป้องกันได้ด้วยการฉีดสารเคมีตอนต้นยังไม่ทันโตมาก หลังจากปลูกไปแล้ว 1-2 เดือน

ในแต่ละปีที่เขาค้อมีเกษตรกรชาวม้ง ปลูกสตรอว์เบอร์รี่เพื่อการท่องเที่ยวประมาณ 20-30 ราย และนิยมให้สุกคาต้น เพื่อให้ นักท่องเที่ยวได้เก็บ ทำให้สตรอว์เบอร์รี่ มีรสชาติหวานฉ่ำ ขณะที่ทางเชียงใหม่จะไม่ปล่อยให้สุกจัด เนื่องจากต้องรีบตัดขาย และต้องเผื่อระยะเวลาในการขนส่ง เพื่อให้ผลผลิตไปสุกแดงที่ปลายทาง ซึ่งพันธุ์ 80 จะนิยมทานผลสดมากกว่า หรือไม่ก็ไปทำ น้ำสตรอว์เบอร์รี่ เพราะพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับการนำไปแปรรูป

อดีตกำนันต.เขาค้อบอกว่า จากการปลูกสตรอว์เบอร์รี่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งผลให้ขายผลผลิตได้ราคาดี โดยในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ขายได้ 400 บาท/ก.ก. แต่หลังจากปีใหม่ไปแล้วขายได้ราคาต่ำลง เหลือ 200- 300 บาทต่อก.ก. แต่ยังถือว่าเป็นผลไม้ที่มีราคาสูง ขณะนี้ใกล้คืนทุนแล้ว และจะเกิดเป็นผลกำไร ประมาณ 300,000-400,000 บาทในเดือนก.พ.-มี.ค. ซึ่งการปลูกสตรอว์เบอร์รี่นี้เป็นการทำกันเองภายในครอบครัว จ้างคนงานมาช่วยเป็นบางส่วนเท่านั้น

คุณอดิศักดิ์ยังบอกอีกว่า กลุ่มเกษตรกร ที่มีพื้นที่เพาะปลูก และมีแหล่งน้ำเพียงพอ จะนิยมปลูกสตรอว์เบอร์รี่ในฤดูหนาว และปลูกพืชชนิดอื่นในฤดูฝน สำหรับไร่ของตนที่ทุ่งกังหันลม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทาง มาท่องเที่ยวและเก็บผลผลิตได้เองโดยไม่เสีย ค่าเข้าชม และหลังจากปลูกสตรอว์เบอร์รี่เสร็จทางไร่จะเพาะกล้าพืชผักสวนครัวตามที่ ลูกค้าสั่ง ไม่ว่าจะเป็นพริก กะหล่ำปลี หรือมะเขือ ฯลฯ

เขาให้แนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอยาก ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ว่า ปลูกไม่ยาก แต่ใช้เงินลงทุนสูง 1 ไร่ ต้องใช้ไหลสตรอว์เบอร์รี่ อย่างน้อย 7,000-8,000 ต้น ตกไหลละ 2-3 บาทส่วนผลผลิตในไร่ปีนี้ออกไปแล้ว 1 รุ่น อีก 10 กว่าวันข้างหน้าคาดว่าจะออกผลอีก ชุดหนึ่ง หากสนใจสตรอว์เบอร์รี่ หรืออยากมากางเต็นท์รับลมหนาว พร้อมชมวิวภูเขาสูงที่เป็นหน้าผา ติดต่อได้ที่โทร. 09-5035-4268
ขอบอกเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ ไม่ควรพลาดจริงๆ

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน