สสว.ปลื้ม ผลสำเร็จโครงการเอสเอ็มอี ออนไลน์ ปีที่ 3 มีผู้เข้าอบรมติดอาวุธทางธุรกิจออนไลน์กว่า 176,000 ราย สร้างยอดขายกว่า 325 ล้านบาทในเวลา 3 เดือน

วันที่ 27 ก.ย. นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยผลสำเร็จโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเอสเอ็มอี ปีงบประมาณ 2562 ว่า สสว.ร่วมกับ 5 หน่วยงาน อบรมผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยมีพื้นที่รับผิดชอบคือ มทร.ธัญบุรี รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลางและตะวันตก, มรภ.สวนสุนันทา รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนบน, สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

นอกจากนั้น ยังบูรณาการความร่วมมือกับ e-Marketplace อีก 14 แห่ง มอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ Lazada, Shopee, Thailandmall, Far-e, Kha-leang.com, Inwmall, Tarad.com, PCHome, Beautynista, Pinsouq, shopseason, Priceza, Wongnai และ Hungryhub ซึ่งโครงการเอสเอ็มอี ออนไลน์ ปี 2562 จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 3 โดยยอดรวมตั้งแต่เริ่มโครงการปีที่ 1 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศกว่า 176,000 ราย สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้กว่า 30,000 ร้านค้า และสร้างยอดขายได้มากกว่า 725 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและขึ้นจำหน่ายออนไลน์แล้วกว่า 375,000 ผลิตภัณฑ์ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ 5 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้าสตรี, กลุ่มสินค้าของใช้ในบ้าน สินค้าตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์ในครัวเรือน, กลุ่มสินค้าความงามและสุขภาพ และกลุ่มสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ

นายสุวรรณชัย กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการฯ สสว. และ 5 หน่วยร่วม เปิดการอบรมให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการ โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ในทุกมิติทั้งแบบ ออนไลน์ ,ออฟไลน์ และเวิร์คช็อป ฝึกปฏิบัติจริง แบ่งผู้ประกอบการได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังเข้าสู่การทำธุรกิจออนไลน์ กลุ่มผู้ประกอบการที่เข้าสู่ธุรกิจออนไลน์แล้วและพัฒนาศักยภาพให้มั่นคงยิ่งขึ้น และกลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูงสุดในทุกด้านพร้อมแข่งขันในตลาดระดับนานาชาติ

“ในปีนี้เราประสบความสำเร็จกับเป้าหมาย Digital to Global ที่วางไว้ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและพร้อมเข้าสู่ตลาดระดับนานาชาติ เตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในทุกๆ ด้าน ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้บางส่วนสามารถเปิดตลาดออนไลน์และส่งออกไปยัง จีน อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา ไต้หวัน บาเรนห์ ดูไบ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น โดยในเวลา 3 เดือน สร้างยอดขายได้กว่า 325 ล้านบาทแล้ว ถือเป็นการยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีความรู้ความเข้าใจที่นำไปปฏิบัติได้จริง และสามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างยั่งยืน” นายสุวรรณชัย กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่สนใจเข้าร่วมโครงการในปี 2563 ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.smeonline.info / Facebook: SMEONLINE BY OSMEP และแอพพลิเคชั่น SME CONNEXT

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน