เผยผลสำเร็จ ส่งเสริม SMEs ลุยออนไลน์ นำร่องผู้ประกอบการที่ได้รับสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ พื้นที่กรุงเทพฯ สร้างมูลค่ายอดขายยกระดับอีคอมเมิร์ซไทย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า “โครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ตลาดออนไลน์ ปีงบประมาณ 2563 จัดขึ้นเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ที่รับสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้สามารถใช้เทคโนโลยีในการทำตลาดออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้และฟื้นฟูธุรกิจ รองรับการทำธุรกิจในยุคเศรษฐกิจตามวิถี New Normal

โดยผลการดำเนินงานสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 30 ราย สามารถสร้างมูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% หรือหากคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 5,570,000 บาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2564 กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จะเร่งขยายผลแนวทางการส่งเสริมให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่รับสินเชื่อให้ครอบคลุมทุกราย ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ด้านการสร้างช่องทางการขายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ได้

นายกอบชัย กล่าวต่อว่า “สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ เราได้รับเกียรติจากทีมวิทยากร และผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้ความรู้ และให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ โดยมี คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ หัวหน้าโครงการ และคุณกฤษฎา โรจนโสภณดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ และทีมที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้ดำเนินการให้คำปรึกษาแนะนำผ่านช่องทางออนไลน์แก่ผู้ประกอบการกิจการละ 5 man-day หรือจำนวน 30 ชั่วโมงต่อกิจการ

โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ กลยุทธ์ ทิศทางแนวโน้มการค้าออนไลน์ การใช้เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจสูงสุด แนวทางการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ การปิดการขายด้วยเครื่องมือโซเซียลมีเดีย รวมทั้งการแสวงหาโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการจะได้ลงมือทำและทดลองใช้เครื่องมือ ดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ จริง และได้สิทธิพิเศษในการเปิดร้านค้าออนไลน์ของ Tarad.com ซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถลงรูปสินค้าที่สวยงาม ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาในร้าน

รวมถึงการให้คำแนะนำด้านทักษะการสื่อสารกับลูกค้า ให้คำแนะนำด้านการซื้อโฆษณาให้มีประสิทธิผล และให้คำแนะนำการใช้เครื่องมือทางโซเซียลมีเดียในการปิดการขาย รวมถึงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และแนวทางในการสร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์เพื่อสร้างความน่าสนใจให้แก่ร้านค้าหรือหน้าเวบไซต์ของผู้ประกอบการตลอดจนทำการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของตลาดและคู่แข่งขันเพื่อนำมากำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดของผู้ประกอบการในที่สุด

ผลลัพธ์การดำเนินงาน ที่เกิดขึ้นเราสามารถช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมมียอดขายออนไลน์ และประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 โดยประมาณการเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5,570,000 บาท และผู้ประกอบการได้มีช่องทางการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง และอีกหนึ่งผลสำเร็จที่สำคัญคือ เราสามารถช่วยเพิ่มองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ในเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ การเลือกเครื่องมือออนไลน์ที่เหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งสามารถนำองค์ความรู้ไปขยายผลการพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้” นายกอบชัย กล่าวทิ้งท้าย

ในปีงบประมาณ 2564 กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มีแผนงานในการเร่งขยายผลแนวทางการส่งเสริมให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่รับสินเชื่อให้ครอบคลุมทุกราย ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ด้านการสร้างช่องทางการขายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook กระทรวงอุตสาหกรรม www.facebook.com/industryprmoi/ หรือที่ Website https://ตลาดนัดเอสเอ็มอี.com/

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน