การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) และนายกเทศมนตรี ทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 เวลา 08.00-17.00 น. ปีนี้ถือว่าคึกคักและได้รับความสนใจอย่างมาก คราวนี้มีผู้คนหลากหลายวงการกระโดดเข้าสู่สนามเลือกตั้งท้องถิ่น
หนึ่งในนั้นคือ‘บิ๊ก’ยุทธชัย พงศ์พณิช นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของดีเลอย์รถจักรยานยนต์หลายแห่งและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้มีเครือญาติทำธุรกิจ‘บี-ควิก’ บริการด้านยานยนต์ครบวงจรอีกด้วย ถือว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ และตัดสินใจลงมาสนามการเมืองท้องถิ่นที่บ้านเกิด
โดยลงสมัครนายกเทศมนตรี เมืองบุรีรัมย์ เบอร์ 1 และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบุรีรัมย์อีก 18 คน ในชื่อทีม‘เพื่อนเนวิน’
นายยุทธชัย กล่าวว่าที่ผ่านมาทำธุรกิจเกี่ยวกับตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซึ่งมีทั้งหมด 6 สาขา และทำหมู่บ้านจัดสรร รวมถึงธุรกิจอื่นๆ กระทั่งปี 2556 มีผู้ใหญ่ชักชวนลงเล่นการเมืองท้องถิ่นจึงจัดสินใจลงสมัคร และได้รับความไว้วางใจจากชาวบุรีรัมย์ กระทั่งขึ้นเป็นรองนายกเทศมนตรี ก่อนที่จะมีโอกาสลงสมัครตำแหน่งนายกเทศมนตรี เมืองบุรีรัมย์ เบอร์ 1 ในครั้งล่าสุดนี้
สโลแกน“พัฒนาเมือง พัฒนาด้วยใจ พัฒนาไปด้วยกัน” ที่ติดหูชาวเมืองบุรีรัมย์ นายยุทธชัย บอกว่า เป็นสโลแกนที่นำมาปฏิบัติ ทั้งในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556
ผลงานที่นำมาสู่การคว้ารางวัลที่ 3 ในระดับประเทศ เมื่อครั้งเป็นรองนายกเทศมนตรีก็คือการพัฒนาถนนคนเดิน‘เซราะกราว’ นำมาสู่การสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจให้กับพ่อค้า แม่ค้า รวมทั้งสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวที่มาบุรีรัมย์
Advertisement
นอกจากปากท้องที่ชาวบุรีรัมย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแล้ว เรื่องของสุขภาพที่ไทยเราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม นายยุทธชัย บอกว่าในอนาคตที่อยากจะทำก็คือ โรงเรียนผู้สูงอายุ ให้กลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการทั้งตรวจสุขภาพ และสร้างกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนมีความสุข
ด้วยการศึกษา ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์(นิด้า), Intensive English Program : University of California, San Diego,USA, เข้าอบรมหลักสูตร : การพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.รุ่นที่ 11) เป็นกรรมการรุ่น และหลักสูตร : ผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย (ปนป.รุ่นที่ 8) เป็นประธานรุ่น จึงนำมาสู่ทักษะการบริหารท้องถิ่น
ในบทบาทรองนายกเทศมนตรี ฝ่ายการศึกษา ที่ได้ทำไว้หลายส่วน ทั้งเพิ่มอิงลิช โปรแกรม, ส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีมาตรฐานด้านกีฬามากขึ้น ขณะที่ด้านวิชาการ ได้เพิ่มหลักสูตรหลายหลักสูตร รวมทั้งเทคโนโลยี อุปกรณ์การเรียน ใน 3 โรงเรียน และ 1 ศูนย์เด็ก โดยจะเป็นเป็นสายวิชาการ สายอาชีพ และด้านกีฬา ซึ่งนี่คืองานประจำที่ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องทำอยู่แล้ว
การลงรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีครั้งนี้ มาพร้อมกับ‘3 นโยบาย BIG PROJECT’
โปรเจ็คต์ที่ 1 ปอดกลางเมืองบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ เพื่อเป็น LANDMARK แหล่งใหม่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ โดยใช้พื้นที่ที่เดินเป็นส่วนราชการโดยความดูแลของธนารักษ์ ไม่ว่าจะกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง บ้านพักศึกษาธิการ หรือแม้กระทั้งบ้านพักท่านอัยการ โดยได้พูดคุยทุกภาคส่วน พร้อมที่จะคืนพื้นที่ให้กับธนารักษ์ เพื่อให้เทศบาลไปใช้ประโยชน์ แล้วทำพื้นที่ตรงนี้ ให้เป็น “ปอดกลางเมือง” เป็นจุดพักผ่อน และจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ สร้างศูนย์รวมชุมชน กีฬา วัฒนธรรม จุดจำหน่ายอาหารและสินค้า OTOP
โปรเจ็คต์ที่ 2 ขยายท่อระบายน้ำทั้งระบบเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมเรื้อรังของเมืองบุรีรัมย์ และโปรเจ็คต์ที่ 3 ก้าวสู่เทศบาลนครเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมืองอย่างยั่งยืน มีแผนควบรวมเทศบาลเมืองกับเทศบาลข้างเคียง เช่นเทศบาลตำบลอีสาณ เพื่อจัดการบริหารเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับเมืองบุรีรัมย์ และตอบรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
จากนโยบายทั้ง 3 เรื่องใหญ่ทำให้เราต้องมีทีมงานโดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ทีมบริหารและทีมสภาเทศบาล ซึ่งสภามีการเลือกตั้งเช่นกัน โดยการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ได้เบอร์ 1-6 ทั้ง 3 เขต ทั้ง 18 คน ประกอบด้วยกลุ่มผู้ที่มีประสบการณ์หลายสมัย, กลุ่มวัยกลางคนที่มาจากหลายภาคส่วน และกลุ่มวัยรุ่นไฟแรงที่มาเติมกำลังให้กับทีม เชื่อว่าการรวามทีมทั้ง 18 คนที่มาจากทุกอาชีพ ทุกเพศทุกวัย จะเสริมการประสานงาน ทำให้การบริหารเทศบาลเมืองเข้มข้มและมีประสิทธิภาพสูงสุดแน่นอน
“โครงการจากผู้บริหารชุดเดิม แม้ไม่ได้มีการสานต่อแต่จะเป็นการปรับเปลี่ยนและเพิ่มผลงานในปัจจุบันที่จะถึงนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาแบบยกทีม ทั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ทั้ง 18 คน ใน 3 เขต สิ่งที่เราตั้งใจ คือเราเข้ามาทำงาน เราไม่ได้ต้องการมาเพื่อตำแหน่ง ดังนั้นใครที่จะเป็นคู่แข่ง ใครที่จะเข้ามาสมัครก็ต้องพิสูจน์กัน แต่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาบ้านเมือง” นายยุทธชัย กล่าวทิ้งท้าย
