สผ. ร่วมประชุม COP Presidency Event: Powering the World Past Coal วางเป้าลดโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน พิจารณาการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการ สผ. และดร.ณัฏฐนิช อัศวภูษิตกุล ผอ.กปอ. เข้าร่วมการประชุม COP Presidency Event: Powering the World Past Coal ซึ่งจัดขึ้นในห้วงการประชุม COP26/CMP16/CMA3 โดยมีนาย Alok Sharma ประธาน COP 26 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม

โดยที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรได้ร่วมกับแคนาดาก่อตั้งกลุ่ม The Powering Past Coal Alliance (PPCA) ในคราวการประชุม COP23 เมื่อปี 2017 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศและหน่วยงานต่าง ๆ แสดงความตั้งใจในการยกเลิกการใช้และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงถ่านหิน ซึ่งการประชุมในวันนี้เปิดโอกาสให้บุคคลสำคัญเข้าร่วมอภิปราย อาทิ นาย Greg Hands ตำแหน่ง Minister of State for Business, Energy and Clean Growth แห่งสหราชอาณาจักร นาย Steven Guilbeault ตำแหน่ง Minister of Environment and Climate Change of Canada และนาย Fatih Birol ตำแหน่ง Executive Director of the International Energy Agency เพื่อแสดงความมุ่งมั่นและนำเสนอความสำเร็จในการดำเนินงานในการยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน การยกเลิกการสนับสนุนทางการเงินต่อโรงไฟฟ้าถ่านหิน และสนับสนุนทางเลือกอื่นที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทย เลขาธิการ สผ. เห็นว่าการที่ประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน 2065 ซึ่งสอดรับกับเป้าหมาย 1.5 C ตามความตกลงปารีส ในการประชุม COP26 นี้

ทำให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับเปลี่ยนสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงของประเทศ รวมถึงพิจารณาความเหมาะสมและจำเป็นในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ในอนาคต โดยการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน เป็นธรรม และเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งประเทศไทยจะต้องแสวงหาความร่วมมือและได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินและเทคโนโลยีจากกลไกภายใต้อนุสัญญาฯ และกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างเร่งด่วน

สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินของประเทศพัฒนาแล้วในปัจจุบัน เช่น เยอรมนี ร้อยละ 12 สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 22 และออสเตรเลีย ร้อยละ 54 ขณะที่ประเทศไทยมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเพียงร้อยละ 11 ซึ่งการยุติการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินให้ได้ในช่วงกรอบเวลาเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วจึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

“ดังนั้น ความร่วมมือและการสนับสนุนทางด้านการเงินและเทคโนโลยีจากประเทศพัฒนาแล้วจึงมีความสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ ซึ่ง สผ. จะหารือเรื่องนี้กับประเทศต่าง ๆ ทั้ง สหราชอาณาจักร เยอรมนี และสหภาพยุโรป เพื่อแสวงหาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน