28 มี.ค. เว็บไซต์ข่าวเดลี่ เมล์ รายงานข่าว เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอขอให้แพทย์กำจัดผิวหนังส่วนเกินที่ห้อยย้วยน่าเกลียด หลังจากน้ำหนักลดฮวบกว่า 90 กก.จากการผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร

Image/TLC

‘โฮป ทักเกอร์’ เคยมีน้ำหนักตัวมากที่สุดถึง 148 กก. เธอเคยผ่าตัดลดน้ำหนักและเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เธอเกือบเสียชีวิต แม้ว่าตอนนี้น้ำหนักของเธอจะลดลงมากจนน่าตกใจ แต่ผลที่ตามมาก็คือผิวหนังของเธอไม่ได้กระชับตามน้ำหนักที่ลดลง แถมยังห้อยย้อยอย่างน่าเกลียดแทบทั้งตัว

Image/TLC

รายการลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน ทางช่องทีแอลซี ประเทศสหรัฐฯ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ปรากฏภาพในขณะที่ ‘โฮป’ ออกมายอมรับว่าเธอต้องการจะกำจัดผิวหนังส่วนเกินพวกนี้ออกไป เพราะมันทำให้เธอเครียดมาก จนเกิดภาวะซึมเศร้า

Image/TLC

เธอกล่าวว่า “ความมั่นใจของฉันเริ่มหายไป ตั้งแต่ลดน้ำหนักแล้วมีผิวหนังส่วนเกินย้วยๆแบบนี้เข้ามาแทนที่ มันส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของฉันมาก ทำให้ฉันอยากจะกลับไปเป็นหญิงอ้วนที่มีน้ำหนัก 148 กก. กินแต่อาหารขยะ ไม่ออกกำลังกายซะจะยังดีกว่า”

Image/TLC

‘โฮป’ เล่าย้อนกลับไปว่า น้ำหนักของเธอขึ้นเร็วมากๆ ตั้งแต่เธอเรียนอยู่ชั้นประถมน้ำหนักก็พุ่งสูงถึง 90 กก.แล้ว

“เพราะฉันเคยอ้วน เด็กผู้หญิงคนอื่นๆมักมองมาที่ฉันด้วยความรังเกียจ พวกเขามักจะซุบซิบและกันฉันออกจากกลุ่ม”

หลังเลิกเรียนเธอก็มักจะรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ตอนนั้นมันเหมือนมีห่วงยางใหญ่ๆ หุ้มอยู่รอบตัวฉันเลย ยิ่งเศร้าเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งกิน‘

‘ลิซ่า’ แม่ของเธอกล่าวว่า “มันยากมากที่จะเห็นลูกสาวของฉันพายายามลดน้ำหนัก ฉันจึงพาเธอไปหานักจิตวิทยาเด็ก แต่ก็จบด้วยการสั่งยารักษาโรคซึมเศร้ามาให้กิน แต่ผลข้างเคียงของยามันทำให้น้ำหนักของโฮปเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จนยากเกินที่จะควบคุม”

Image/TLC

โฮปเล่าต่อไปว่า “น้ำหนักที่มากขึ้นเริ่มส่งผลต่อสุขภาพของฉัน ฉันเริ่มหายใจยาก เป็นเบาหวานตอนที่น้ำหนัก 148 กก. ขณะนั้นฉันมีอายุแค่ 20 ปี ฉันเคยพยายามรักษาตัวเองด้วยการปรับอาหาร ฉันรู้ว่ามันยากแต่ก็ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง ”

แต่ว่า การผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหารได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล เธอน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วหลังการผ่าตัด 4 เดือนแรก แต่หลังจากน้ำหนักลดลง 36 กก.แรก เธอก็เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง

Image/TLC

“ในตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกเลวร้ายอะไรมาก แค่ร่างกายเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงตอนน้ำหนักลด ฉันพยายามเอาชนะอาการซึมเศร้าของตัวเอง เพราะความกังวลด้านการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเริ่มตามมา จนกระทั่งมันค่อยๆรุนแรงมากขึ้นๆ จนกระทั่งเวลายืนหน้ากระจกมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงที่โชคร้ายที่สุดในโลก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน