พระเนื้อผงวัดวิเวกวนาราม
คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง
โดย แทน ท่าพระจันทร์
พระเนื้อผงวัดวิเวกวนาราม – สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันถึงพระเครื่องที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้อธิษฐานจิตไว้ และเป็นพระเครื่องที่น่าใช้บูชามากอย่างหนึ่ง ของท่านเจ้าคุณนรฯ เจตนาการสร้างดีบริสุทธิ์ พระที่ผมกล่าวมานี้ก็คือพระผงวัดวิเวกวนาราม อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา ครับ
พระเครื่องพิมพ์ต่างๆ ชุดนี้ จัดสร้างโดยคุณลุงแก้ว ศิริรัตน์ เพื่อไว้สมนาคุณแก่ ผู้ร่วมบริจาค ปัจจัยก่อสร้างศาลาการเปรียญ วัดวิเวกวนาราม ซึ่งคุณลุงแก้วเป็นไวยาวัจกรอยู่ เรื่องมีอยู่ว่า ในต้นปี พ.ศ.2511 คุณลุงแก้ว พร้อมด้วยบุตรคือ นายแพทย์สุพจน์และปลัดอำเภอเชาว์ ศิริรัตน์ ได้เดินทางมากราบนมัสการท่านเจ้าคุณนรฯ ณ อุโบสถ วัดเทพศิรินทราวาส หลังจากที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเสร็จ โดยกราบเรียนว่า ศาลาการเปรียญของวัดวิเวกวนาราม
บัดนี้ชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่สามารถจะบูรณะได้ และได้ปรึกษาคุณแม่แปลก มารดาว่าจะดำเนินการก่อสร้างใหม่ ศาลาการเปรียญแห่งนี้เป็นที่อาศัยเรียนของเด็กๆ ในละแวกนั้น โดยคุณลุงแก้วได้กราบเรียนว่าจะนำผงพระที่แตกหักและเกสรดอกไม้นำมาบด แล้วจะนำมาให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตให้ เพื่อจะได้นำไปแจกให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคในการก่อสร้างศาลาการเปรียญ ถ้าเหลือก็จะนำไปบรรจุไว้ที่ฐานชุกชีในพระอุโบสถ ปัจจัยทุกบาททุกสตางค์จะนำเข้าวัดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย
ในขณะที่คุณลุงแก้วกำลังบอกเล่านั้น ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านนั่งขัดสมาธิหลับตานิ่งอยู่ประมาณ 15 นาที ท่านจึงลืมตาแล้วบอกว่า “อย่านำพระไปบรรจุใต้ฐานพระประธานเลย เพราะจะทำให้พระประธานเดือดร้อนภายหลัง เพราะถ้าพระชุดนี้เกิดมีชื่อเสียงก็อาจจะทำให้ไปลักลอบขุดทำลายได้ ถ้าจะให้ดีโยมสร้างพระชุดนี้เสร็จก็นำไปแจกจ่ายให้กับผู้มีศรัทธาให้หมดจะดีกว่า” พร้อมกันนี้ท่านก็ได้แนะนำคุณลุงแก้วว่า “เมื่อนำผงมาจะให้อธิษฐานจิตละก็ ให้นำมาไว้ที่ระหว่างฐานชุกชีพระประธานภายในพระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ เพื่อจะได้ให้หลวงพ่อภายในพระอุโบสถ และพระภิกษุ–สามเณร ที่ลงทำวัตรสวดมนต์ จะได้ช่วยกันปลุกเสกให้อีกด้วย”
Advertisement
หลังจากนั้นคุณลุงแก้วพร้อมทั้งบุตรชายทั้งสองจึงได้ไปกราบเรียนท่านเจ้าคุณพระ สาสนโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ และได้บอกว่าจะนำโหลบรรจุผงพระมาไว้ภายในพระอุโบสถเพื่อให้ท่านเจ้าคุณนรฯ และพระภิกษุสามเณรภายในวัดปลุกเสก 1 ไตรมาส พร้อมทั้งได้กราบเรียนว่าจะนำบุตรชายคือ นายเชาว์มาอุปสมบทที่วัดเทพศิรินทร์ด้วยในปี พ.ศ.2511 หลังจากที่คุณลุงแก้วนำโหลบรรจุผงพระมาไว้ที่ในพระอุโบสถแล้ว สังเกตเห็นว่าหลังจากพระภิกษุ–สามเณรทำวัตรเสร็จแล้ว ท่านเจ้าคุณนรฯ จะนั่งเพ่งไปยังโหลแก้วที่บรรจุผงนานประมาณ 5 นาที ทุกวันจนครบไตรมาส
เมื่อออกพรรษาแล้วคุณลุงแก้วจึงได้มากราบเรียนท่านเจ้าคุณนรฯ ว่าจะมารับผงไปจัดสร้างพระ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะนำพระมาให้ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิตให้อีกครั้ง แต่ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ตอบปฏิเสธไปว่า ผงชุดนี้สำเร็จแล้วเป็นผงวิเศษ เมื่อนำไปสร้างพระแล้วจะนำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่ใกล้วัดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องหอบพะรุงพะรังมาถึงนี่ เพราะสมัยนั้นการไปมาไม่สะดวกต้องมาทางเรือเท่านั้น
เมื่อคุณลุงแก้วกลับไปถึงตลาดบางน้ำเปรี้ยว ก็สั่งให้นายแพทย์สุพจน์ ติดต่อช่างแกะแม่พิมพ์ แต่ทางหมอสุพจน์มีงานมากจึงยังไม่ได้ติดต่อช่าง จนคุณลุงแก้วรอแม่พิมพ์ไม่ไหว จึงได้ให้ลูกชายอีกคนที่เป็นทันตแพทย์อยู่ในตลาดคลองสิบหกใช้ยางทำพิมพ์ฟัน มาถอดพิมพ์พระเครื่องพิมพ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน เพื่อทำแม่พิมพ์ โดยคุณลุงแก้วได้ผสมผงและพิมพ์พระเองอยู่ที่บ้าน พอถึงปลายๆ ปีพ.ศ.2512 นายแพทย์ สุพจน์ ได้ไปกราบนมัสการท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านก็ได้บอกกับหมอสุพจน์ว่า ช่วยไปบอกโยมแก้วด้วยว่า “ผงที่นำไปสร้างพระขอให้ระมัดระวังด้วย อย่าให้ตกหล่นลงในที่ต่ำ เพราะจะบาป คือผงสำเร็จแล้ว” หมอสุพจน์ได้ฟังก็ประหลาดใจ เนื่องจากตนเองก็ยังไม่ได้ไปติดต่อแกะแม่พิมพ์ให้ พอถึงวันอาทิตย์หมอสุพจน์จึงได้เดินทางกลับมาบ้านที่คลองสิบหก
จึงได้รู้ว่าบิดาได้พิมพ์พระขึ้นไว้จำนวนมาก และได้เล่าให้บิดาฟังว่าท่านเจ้าคุณนรฯ เตือนมาอย่างนี้ เมื่อคุณลุงแก้วได้ฟังก็พยายามนั่งทบทวนว่าตนนำผงไปตกหล่นที่ไหนบ้าง แต่ก็นึกไม่ออกและพยายามหาพระพิมพ์ว่าตกหล่นอยู่ที่ใดบ้าง จึงได้ชวนลูกชายที่เป็นทันตแพทย์คุ้ยหาพระตามท่อระบายน้ำด้านหลังบ้าน จึงพบว่าพระพิมพ์สมเด็จฯ ได้ตกอยู่ในท่อน้ำครำ 1 องค์
เมื่อสร้างพระเสร็จคุณลุงแก้ว ได้นำพระบรรจุในถุงแป้งมันได้ 5 ถุง และนำมาเข้าพิธี 5 ธันวาคม พ.ศ.2513 ที่วัดเทพฯ เมื่อเสร็จพิธีได้เอาไว้ที่วัดเทพฯ 2 ถุง พระชุดนี้มีด้วยกันหลายพิมพ์เป็นแบบพระสมเด็จก็หลายพิมพ์ ที่ด้านหลังมีทั้งแบบหลังยันต์จม หลังยันต์นูน หลังยันต์ปั้นหมึกและหลังเรียบ พระส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์แบบสมเด็จ
นอกจากนี้ก็ยัง มีแบบพระพุทธโสธร พระปิดตา และรูปเหมือนใบโพธิ์ เป็นต้น ส่วนผสมของพระชุดนี้ได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆังฯ และพระสมเด็จ กรุวัดบางขุนพรหมที่แตกหัก ที่ได้มาเมื่อคราวเปิดกรุ พระสมเด็จวัดสามปลื้มแตกหักได้มาประมาณครึ่งปี๊บ ได้รับมอบจากท่านพระครูประสิทธิ์สมณการ เจ้าคณะ 8 วัดสามปลื้ม ผงตะไบชนวนกริ่งท่านเจ้ามา พระรูปเหมือนสมเด็จกรมหลวงชินวร สิริวัฒน์ 2 องค์ รุ่นปีพ.ศ.2485 ที่ชำรุดแตกหัก พระเครื่องเนื้อดินเผาที่ชำรุด จากกรุอยุธยา ผงซ่อนตัวของหลวงปู่จัน วัดท่าลาดชานหมากหลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ สีผึ้งและแป้งปลุกเสกของหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว แป้งดินสอพองที่นำไปให้ท่านเจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิต ใบโพธิ์จากต้นข้างโบสถวัดเทพฯ ใบโพธิ์ที่วัดโสธรและทองคำเปลวที่ปิดองค์หลวงพ่อโสธร ขี้ธูปบูชาในพระ อุโบสถวัดโสธร ผ้ายันต์จากคณาจารย์ต่างๆ เผาผสมดินสังเวชนียสถาน 4 แห่งจากประเทศอินเดีย ว่าน 108 ชนิดและเกสรดอกไม้บูชาพระจากที่บูชาหลายแห่ง
จะเห็นว่าพระเนื้อผงของวัดวิเวการามแห่งนี้ถึงแม้ว่ารูปทรงจะไม่สวยงามมากนัก แต่สร้างด้วยจิตบริสุทธิ์ และท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านก็อธิษฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งนานถึง 1 พรรษา นับว่านานที่สุดของท่านเลยก็ว่าได้ ผมว่าพระชุดนี้น่าจะเป็นพระที่บูชาห้อยติดตัวมากที่สุด ปัจจุบันก็หายากแล้วครับ
วันนี้ผมได้นำรูปพระผงวัดวิเวกฯ พิมพ์ต่างๆ มาให้ชมครับ