หลวงปู่เจ กตปุญโญ วัดป่าวิเวกธรรม กาฬสินธุ์ : มงคลข่าวสด

“หลวงปู่เจ กตปุญโญ” หรือ “หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ” ประธานสงฆ์วัดป่าวิเวกธรรม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พระเถระที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

นอกจากนี้ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคม ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาสืบสายธรรมจากหลวงพ่อคง จัตตมโล วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง

ปัจจุบันสิริอายุ 80 ปี พรรษา 30

นามเดิม บุญมา แก้วปัญญา เกิดในปีพ.ศ.2483 ที่บ้านพะยอม ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เป็นบุตรของนายมีและนางลี แก้วปัญญา

ชีวิตช่วงวัยเด็กขยันขันแข็ง ช่วยเหลือครอบครัวทำไร่ ทำนา เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ไปตามประสา

ด้วยความที่เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม จึงขอบรรพชาที่วัดในหมู่บ้าน และเข้าพิธีอุปสมบท เมื่ออายุครบบวชที่อุโบสถวัดบ้านพะยอม ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด มุมานะศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความขยันขันแข็ง

หลังจากบวชได้ระยะหนึ่ง ด้วยความที่ครอบครัวท่านมีฐานะยากจนจึงตัดสินใจลาสิกขาเพื่อออกมาเป็นกำลังหลักเลี้ยงดูบิดา-มารดาที่แก่ชรา แต่ในช่วงที่ครองเพศฆราวาสท่านจะนุ่งห่มผ้าขาว ถือศีลปฏิบัติธรรมเป็นหมอธรรม กินแต่พืชผัก ผลไม้ หรืออาหารเจ ไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด จนชาวบ้านเรียกว่า “ญาพ่อธรรมเจ”

ใช้ชีวิตฆราวาสจนถึงปีพ.ศ.2533 เมื่อหมดภาระความรับผิดชอบทางครอบครัวจึงตัดสินใจหันหน้าเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดอรุณรังษี ต.บางลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2533 มีพระครูอรุณวิริยกิจ (หลวงพ่อสายตาบ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เทือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ประสิทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เรียนกัมมัฏฐานเบื้องต้นกับพระอุปัชฌาย์นานถึง 5 พรรษา จนเชี่ยวชาญ

ต่อมาได้ไปศึกษาเพิ่มเติมที่สำนักกัมมัฏฐานกับหลวงพ่อคง จัตตมโล วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี ซึ่งได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น โดยเฉพาะการเพ่งกสิณลม กสิณไฟ เป็นต้น

ศึกษาอยู่กับหลวงพ่อคงผู้เป็นพระอาจารย์นานหลายพรรษา ก็กราบลาออกธุดงค์ไปตามป่าเขาทั่วประเทศ อาทิ ภาคใต้ จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร นานหลายพรรษา ส่วนที่ภาคอีสาน จำพรรษาอยู่ตามป่าเขาในพื้นที่ จ.อุดรธานี จ.หนองคาย เป็นต้น

สร้างสำนักสงฆ์ป่า 19 บ้านบึงโดน ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด

เนื่องจากย่างเข้าสู่ปัจฉิมวัย อายุและพรรษาเพิ่มมากขึ้น พระอธิการยุทธ จันทสาโร เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมจึงกราบนิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งประธานสงฆ์วัดป่าวิเวกธรรม

คณะศิษยานุศิษย์ รวมทั้งพระภิกษุ-สามเณรในวัดจะได้คอยดูแลอุปัฏฐาก ซึ่งก็รับนิมนต์มาจำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดแห่งนี้ตราบจนปัจจุบัน

หลังจากมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าแห่งนี้ทุ่มเทกำลังพัฒนาวัดแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากมีความปรารถนาที่จะคงสภาพวัดป่าแห่งนี้เอาไว้ให้อยู่สภาพเดิมให้มากที่สุด สมกับความเป็นวัดป่าที่มีแต่ความสงบร่มรื่น บริเวณวัดอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด

ชอบแกะพระไม้เพื่อฝึกสมาธิ และวันพระจะไม่ยอมนอนหลังแตะพื้นเด็ดขาด นั่งกัมมัฏฐานตลอดคืน

หากเมื่อรับกิจนิมนต์ ร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล จะยืนอธิษฐานจิต ไม่เคยนั่ง จนพิธีแล้วเสร็จ

ถึงแม้ท่านจะบวชเมื่อตอนที่มีอายุมาก แต่ด้วยความเป็นพระที่ปฏิบัติดีจึงเริ่มมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธา แทบทุกวันจะมีญาติโยมมากราบนมัสการรับฟังธรรมจำนวนมาก ต้องสงเคราะห์ตลอดวัน ไม่เคยย่อท้อ จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทนถึงแม้อายุกว่า 80 ปีแล้วก็ตาม

เคยกล่าวปรารภกับศิษย์ที่ใกล้ชิดว่าเมื่อญาติโยมมีทุกข์มาหาก็ปัดเป่าให้ด้วยพุทธมนต์และน้ำมนต์ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอดเพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตคือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ

เป็นพระเถระที่ควรแก่การยกย่องกราบไหว้อีกรูป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน