ประวัติเจ้าคุณศรี ฯ (สนธิ์) – สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ถ้าเราจะกล่าวถึงพระกริ่งที่สร้างประเทศไทยแล้ว พระกริ่งสายวัดสุทัศน์เป็นพระกริ่ง ที่มีผู้นิยมกันมาก ตั้งแต่พระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) รองลงมาก็คือพระกริ่งของท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) วันนี้ผมขอกล่าวถึงประวัติของท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) บางท่านอาจ จะทราบดีอยู่แล้ว แต่สำหรับบางท่านยังไม่ทราบจะได้ศึกษาไปพร้อมๆ กันนะครับ

ท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์) นามเดิมว่า สนธิ์เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2446 ที่ตำบลบ้านป่าหวาย อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โยมบิดาชื่อสุข โยมมารดาชื่อทองดี เมื่อท่านเจ้าคุณฯ มีอายุได้ 11 ขวบโยมบิดาได้เสียชีวิตโยมมารดาจึงนำท่าน เจ้าคุณฯ มาฝากพระภิกษุบุญ ซึ่งเป็นญาติทางฝ่ายโยมมารดา ที่วัดสุทัศน์คณะ 15 เพื่อศึกษาอักขระสมัยฝ่ายบาลีตามคตินิยมใน ยุคนั้น และเรียนคัมภีร์มูลกัจจายน์ ต่อมาเมื่อพ.ศ.2458 ท่านเจ้าคุณฯ มีอายุได้ 13 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยมีพระมงคล ราชมุนี (ผึ่ง) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ เป็นพระครูปลัดสุวัฒนพรหมจริยคุณ ฐานานุกรมในพระพรหมมุนี จำพรรษาอยู่ในการอุปการะของพระภิกษุบุญ ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ.2459 พระภิกษุบุญได้รับสถาปนาแต่งตั้งไปครองวัดกลางบางแก้วอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หรือที่เรารู้จักกันดีคือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วสมณศักดิ์ครั้งสุดท้ายที่ พระพุทธวิถีนายก

สามเณรสนธิ์จึงได้ติดตามหลวงปู่บุญ ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว พอถึงปี พ.ศ. 2460 หลวงปู่บุญจึงเห็นสมควรให้ สามเณรสนธิ์ได้กลับมาศึกษาต่อยังสำนัก วัดสุทัศน์ ในวันที่เข้าไปกราบลาหลวงปู่บุญเพื่อเดินทางนั้น หลวงปู่บุญได้พิจารณาดูตามดวงชะตาของสามเณร แล้วจึงพูดว่า “ดวงอย่างเณรต้องเป็นอาจารย์คน”

เมื่อสามเณรสนธิ์กลับมาที่วัดสุทัศน์ ก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยต่อและได้เข้าสอบประโยคนักธรรมตรีได้เมื่อ พ.ศ.2464 และสอบนักธรรมโทได้ในปี พ.ศ.2465 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีสมเด็จ พระสังฆราช (แพ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมงคลราชมุนี (ผึ่ง) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูปลัดสุวัฒนฯ เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระพิมลธรรม (นาค) เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นที่ พระเทพกวี และยังสถิตอยู่ที่สุทัศน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ยติธโร”

ปี พ.ศ.2467 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค จนถึงปี พ.ศ. 2474 ก็สอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยคตามลำดับสมณศักดิ์ที่ได้รับ ในปี พ.ศ.2468 เป็นที่พระครูธรรมรักขิต ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (แพ) ปี พ.ศ. 2469 เป็นที่พระครูวิจิตรสังฆการ ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (แพ) ปี พ.ศ.2471 เป็นที่ พระครูวินัยธร ปี พ.ศ.2481 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะที่ พระศรีสัจญาณมุนี พระราชาคณะชั้นสามัญ ในปี พ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จาก พระราชาคณะสามัญ ขึ้นเป็นพระราชา คณะชั้นราช ที่พระมงคลราชมุนีฯ

ชาวบ้านมักจะเรียกท่านจนติดปากว่า “เจ้าคุณศรีฯ ” จริยาวัตรของท่านเจ้าคุณศรีฯงดงาม เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป ท่านเจ้าคุณฯ มีความเชี่ยวชาญ ทั้งทางด้านพุทธาคม โหราศาสตร์ ฤกษ์พานาทีและเป็นศิษย์ใกล้ชิดของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) เป็นแม่งานช่วยสมเด็จพระสังฆราชฯ ทุกงาน จนกระทั่งพระองค์รับสั่งกับศิษย์ใกล้ชิดว่า “พระมหาสนธิ์เขาจะมา สร้างพระกริ่งแทนฉัน”

 

ท่านเจ้าคุณศรีฯ ได้สร้างพระกริ่งอยู่หลายรุ่น ในขณะที่สมเด็จพระสังฆราชยังพระชนม์ชีพอยู่นั้นท่านเจ้าคุณจะนิมนต์สมเด็จพระสังฆราชมาเป็นประธานในพิธีเสมอ ท่านเจ้าคุณศรีฯ ได้สร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์อยู่หลายรุ่นล้วนเป็นที่นิยม ทั้งสิ้น จนถึงวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2495 ท่านก็ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ ได้ 49 ปีพรรษาที่ 29

ปัจจุบันพระกริ่งพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุณศรีฯ นั้นหายากแล้วครับ และในวันนี้ผมขอนำรูปพระกริ่งหลักชัยหรือที่มักเรียกกันว่า พระกริ่งบาเก็ง 1 สร้างเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2487 จำนวนสร้าง 162 องค์บรรจุกริ่งในตัว 2 รู มาให้ชมกันด้วยครับ

ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน