จังหวัดสระบุรี มีพระเกจิชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงพ่อหยอด วัดหนองปลาหมอ, หลวงพ่ออุ่ม วัดไผ่ดำ, หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ (วัดแปดอาร์), หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน, หลวงปู่เฮ็น สิริวังโส วัดดอนทอง, หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ฯลฯ
ทุกวันนี้พระเกจิอาจารย์ที่กล่าวนาม ไปแล้วนั้น มรณภาพไปแล้วทั้งสิ้น
แต่ในปัจจุบัน ยังมีพระเถราจารย์ที่มากด้วยความรู้ ความสามารถ และสืบทอดสรรพวิชาไว้ได้อย่างเข้มขลัง คือ “พระครูสิทธิพิมล” หรือ “หลวงพ่อจักษ์ จัตตมโล” พระเกจิที่มีชื่อเสียงปฏิปทาเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของชาวสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
ปัจจุบันสิริอายุ 62 พรรษา 42 ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดชุ้ง ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และเจ้าคณะตำบลพระยาทด
มีนามเดิม ประจักษ์ นิลพิทักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2498 ที่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ครอบครัวมีความผูกพันกับพระพุทธศาสนา
ในปี พ.ศ.2518 เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดบ้านโดน ก่อนย้ายมาอยู่วัดอัมพวัน ตั้งใจศึกษาแนวทางปฏิบัติโดยเอาแบบอย่างพระอาจารย์ คือ หลวงปู่ย้อย ปุญญมี วัดอัมพวัน ซึ่งเป็นศิษย์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
อายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดชุ้ง ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2519 มีพระครูวิมลสมณวัตร (หลวงพ่อใหญ่) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์บุญเรือง อดีตเจ้าอาวาสวัดชุ้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระกำปั่น ปุณโณ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
อยู่จำพรรษาที่วัดอัมพวัน ด้วยความตั้งมั่นในธรรมและความเพียร มีหลวงปู่ย้อย ให้ความ เมตตาสั่งสอนสรรพวิชา ท่านได้ประสิทธิ์ ประสาทกัมมัฏฐานและเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ จนหมดสิ้น รวมทั้งการทำตะกรุด เช่น ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราช สุดยอดตะกรุดดังของหลวงปู่ย้อย, ตะกรุดโทน, ตะกรุดโสฬสมงคล
กระทั่งมีความชำนาญ หลวงปู่ย้อยไว้วางใจ ให้จารตะกรุดแทน
ต่อมาย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดชุ้ง เพื่อช่วยงาน พระสมุห์บุญเรือง พระกรรมวาจาจารย์ของท่าน
ช่วยงานพระสมุห์บุญเรือง ปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัด โดยท่านจารตะกรุด เพื่อหาปัจจัยบูรณะวัดชุ้ง
จวบจนหลวงปู่ย้อยและพระสมุห์บุญเรืองมรณภาพ ครั้นวัดชุ้งขาดเจ้าอาวาส ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันนิมนต์ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทน
พ.ศ.2537 ศึกษาวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่เฮ็น โดยศึกษาวิชาทำตะกรุดภุชงค์เบญจฤทธิ์ อันเป็นวิชาของหลวงปู่เฮ็น
จากนั้นนำวิชาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียน สงเคราะห์ ญาติโยมที่มากราบหรือมาพึ่งบารมีของท่าน ช่วยขจัดปัดเป่าให้บรรเทาเบาบางลงไป ด้วยความเป็นพระที่เมตตา เข้าถึงง่าย จึงเป็นที่เคารพ และศรัทธาของคนในพื้นที่และใกล้เคียง
มีหลักธรรมคำสอนง่าย ด้วยการใช้เมตตาธรรมในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ ให้ตั้งมั่นอยู่ในความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนร่วมกับข้าราชการ พุทธศาสนิกชน จัดทำบุญในวันสำคัญต่างๆ
แม้วัยจะล่วงเข้า 67 ปี แต่ท่านยังตื่นแต่เช้า กวาดลานวัด ทำงาน ฉันมื้อเดียว ยามว่าง นั่งสมาธิภาวนาวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นประจำ
ท่านได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลพระยาทด และพระอุปัชฌาย์
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2556 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูสิทธิพิมล
ยังคงมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองตามกำลัง
