เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ความว่าพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระครูวศินปริยัตยากร วัดไก่เตี้ย กรุงเทพฯ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ มีนามว่า พระปริยัติวัชราทร

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.2567 ประกาศ ณ วันที่ 13 ก.ค.2567

“พระปริยัติวัชราทร” (สมภูมิ สมจิตโต) หรือ “พระอาจารย์โชคดี” พระเกจิชื่อดัง ที่มีคณะศิษยานุศิษย์เข้าไปกราบนมัสการเพื่อความเป็นสิริมงคลจำนวนมาก

ปัจจุบัน สิริอายุ 54 ปี พรรษา 34 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

มีนามเดิม สมภูมิ ร่มโพธิ์ทอง เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มี.ค.2513 ที่บ้านสาลี ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรชายคนโต มีพี่น้อง 4 คน

วัยเยาว์อายุ 7 ขวบ สนใจศึกษาอ่านเขียนและสวดท่องมนตร์กับคุณตา ฆราวาสจอมขมังเวทยุคเก่า ได้รับสืบทอดวิทยาคมหลายแขนง

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2533 เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสาลี บ้านเกิด ได้รับฉายาว่า สมจิตโต แปลว่า ผู้มีจิตอันเสมอ

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 3 ประโยค

มงคลข่าวสด - พระปริยัติวัชราทร ตำรับนะหน้าขุนแผน

ด้วยความสนใจด้านวิทยาคม จึงฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อสิงห์โต ปสันนจิตโต เจ้าอาวาสวัดสาลี ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อช่อง สายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระนครศรีอยุธยา จนเชี่ยวชาญ

ครั้งหนึ่งมีโอกาสไปเรียนวิชา “นะหน้าขุนแผน” ลงแป้งเสกแป้งวิเศษกับพ่อครูเฒ่าชาวมอญ จ.กาญจนบุรี โดยให้สัจจะว่าจะไม่เรียกพานครู (เงินทอง) จากใครทั้งสิ้น พร้อมช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามาพึ่งใบบุญ

นอกจากนี้ ยังไปฝากตัวเป็นศิษย์อดีตพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อแพ เขมังกโร, หลวงปู่บุดดา ถาวโร จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อฮวด ปัญญาวุฑโฒ จ.สุพรรณบุรี, หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อเชิญ ปุญญสิริ วัดโคกทอง จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อลำใย ปิยวัณโณ วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี ฯลฯ

หลังเข้ารับการถ่ายทอดวิชา ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาและปฏิบัติธรรมตามสำนักต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน เคยไปพักที่สำนักสงฆ์ร้างกลางป่า จ.ชัยภูมิ เรียนวิชาไม้กาฝากมงคลและว่านต่างๆ จากพรานป่า

ออกธุดงค์ต่อไปถึงปราสาทเขาพนมรุ้ง-ปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์ และเข้าไปในเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา

พ.ศ.2541 ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพิชยญาติการาม และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส

ในระหว่างพำนักที่วัด ใช้สรรพวิชาต่างๆ ที่ร่ำเรียนมาช่วยสงเคราะห์ญาติโยมจนมีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นต้นตำรับนะหน้าขุนแผนอันลือลั่น สืบสานวิชาสายรามัญ (มอญ) ลูกศิษย์ที่เข้ามาลงนะต่างได้รับความเป็นสิริมงคลกันทั่วหน้า มีทั้งพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ ประชาชนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ

ในปี พ.ศ.2564 ขอลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม พระอารามหลวง เพื่อไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้รับกิจนิมนต์มากเป็นข้ามเดือน ไม่ว่าจะเป็นพิธีสวดนพเคราะห์เสริมดวงต่อชะตา เสริมโชคลาภวาสนา นั่งปรกอธิษฐานจิตบวงสรวง ทำบุญเจิมอาคารสำนักงาน เจิมขึ้นบ้านใหม่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นต้น

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2558 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูวศินปริยัตยากร

ล่าสุด วันที่ 12 ก.ค.2567 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปริยัติวัชราทร

พระอาจารย์โชคดี สงเคราะห์ญาติโยมตลอดเรื่อยมา ทำให้เป็นที่เคารพศรัทธาและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน