สีสัน การเมือง ภาพลักษณ์ คนรุ่นใหม่ ในสนาม การเมือง
คอลัมน์ : วิเคราะห์การเมือง
วิเคราะห์การเมือง – สัมผัสความคึกคักอันมาจากพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะเป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก่อให้เกิดนัยประหวัดอันแหลมคมทางการเมือง
ทำไมจึงไม่เห็นจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมจึงไม่เห็นจากพรรคพลังประชารัฐ
เพราะในห้วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม บรรยากาศการเปิดตัว “คนรุ่นใหม่” ทางการเมืองของแต่ละพรรคก็ดำเนินไปด้วยความคึกคัก
ไม่ว่าจะเป็น New Dem ไม่ว่าจะเป็น New Blood
แล้วเหตุใดบรรดาคนรุ่นใหม่ของแต่ละพรรคจึงค่อยๆ เงียบ ไม่ปรากฏบทบาท คงเหลือแต่เพียงของพรรคอนาคตใหม่เท่านั้นที่ยังสดใส กาววาว
คําตอบสำคัญมาจากลักษณะและองค์ประกอบของพรรค นั่นก็คือ มิได้เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่หรือความคิดใหม่อย่างแท้จริง
หากแต่เป็นพรรคของคนรุ่นเก่า ครอบงำโดยคนรุ่นเก่า
ภาพของคนรุ่นใหม่ที่นำมาเปิดตัวจึงดำเนินไปเพื่อสร้างสีสัน แสดงให้เห็นว่าพรรคของตนเปิดพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่เหมือนกัน มิได้เก่าแก่หงำเหงือกแต่อย่างใด
แต่เมื่อมิได้เป็นพรรคอันมีองค์ประกอบ “ใหม่” อย่างเป็นจริง
ชั่วเวลาอันสั้น คนรุ่นใหม่ก็ถูกกระแสของคนรุ่นเก่าซึ่งกำกับ บงการพรรคครอบงำ แปลงร่างเป็นคนรุ่นเก่าไปอย่างรวดเร็ว
ยิ่งภายหลังการเลือกตั้งจุดต่างระหว่างพรรคอนาคตใหม่กับพรรคการเมืองกระแสหลักอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย
ยิ่งแทบจะแยกกันอยู่คนละมุมโดยสิ้นเชิง
ภาพของนักการเมืองรุ่นเก่ายังเป็นด้านที่ครอบงำอยู่ กล่าวสำหรับคนรุ่นใหม่เมื่อจบสิ้นเทศกาลเลือกตั้งก็หมดเวลาในการสร้างสีสัน
ลีลาทางการเมืองก็เริ่มเขี้ยวลากดิน ไม่แปรเปลี่ยน
ตรงนี้เองที่ทำให้บทบาทในแบบ นายธนาธร จึงรุ่ง เรืองกิจ ในแบบ นายปิยบุตร แสงกนกกุล มีความโดดเด่นในเชิงเปรียบเทียบเป็นทบเท่าทวีคูณ
คําถามที่เสนอเข้ามาก็คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จะรักษากระแสและพัฒนากระแสของพรรคอนาคตใหม่ให้เติบใหญ่อย่างไร
สังคมจึงได้เห็นอีเวนต์ในแบบ Future is Now
สังคมจึงได้เห็นภาวะอันเป็นพลวัตรอย่างต่อเนื่อง จากการประกาศความพร้อมลงสู่สนามเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ไม่ว่าอบจ. ไม่ว่าอบต.
นี่คือการลงลึกไปในระดับรากฐาน ทั้งเมืองและชนบท