ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เสียงไม่พอใจต่อปฏิบัติการของคอมมานโดในการบุกจับอดีตพระสุวิทย์นั้น ความจริงก็มาจากคนที่เข้าร่วมเป่านกหวีดเพื่อล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาด้วยกัน แต่ในทางกลับกัน เสียงสนับสนุนการทำหน้าที่ของตำรวจก็มีอยู่มากมายเช่นกัน
ดังเช่น วันก่อนมติชนออนไลน์ จัดสำรวจความเห็น ผู้อ่าน ทั้งทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
ผลออกมาพบว่า เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับปฏิบัติการของตำรวจ และไม่เห็นด้วยที่ผู้นำรัฐบาลออกมาขอโทษนายสุวิทย์!
สะท้อนว่า ทั่วทั้งสังคมมีมุมมองหลากหลาย จะสรุปว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจตำรวจในเรื่องนี้ ย่อมไม่ได้
แต่ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ กลายเป็นเครื่องสะท้อนระบบคิดของคนบางกลุ่มให้เห็นอย่างชัดเจน
ระบบคิด ที่ไร้หลักการ ยึดติดตัวบุคคล เอาความเชื่อว่า ถ้าคนนี้ดี ไม่ว่าจะทำอะไรต้องดีไปหมด!?!
ทั้งที่ข้อกล่าวหาต่อนายสุวิทย์นั้น ทั้งคดีปลอมและ ใช้พระปรมาภิไธยปลอม ซึ่งกระทบกระเทือนสถาบัน เบื้องสูง
กับ อั้งยี่ซ่องโจร ร่วมสนับสนุนการทำร้ายตำรวจสันติบาลและปล้นทรัพย์
โดยเฉพาะคดีหลัง มีคลิปหลักฐานยืนยัน
2 ข้อหานี้ ในแง่คนที่ไม่ได้ไปร่วมเป่านกหวีดด้วย ไม่ผูกพันมีหนี้บุญคุณอะไรกัน ย่อมเห็นด้วยเมื่อตำรวจทำหน้าที่ตรงไปตรงมา
ไม่มี 2 มาตรฐาน
ขณะที่นายสุวิทย์วางตัวจนประจักษ์ชัดช่วงชัตดาวน์ ว่ามีการ์ดพกปืน ใช้ความรุนแรง!
จึงเป็นความรอบคอบ ที่ต้องใช้คอมมานโดเข้าชาร์จจับฉับไว ก่อนจะมีการก่อม็อบขัดขวาง
อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตำรวจและทหารก็ได้ใช้วิธีการไม่ต่างกัน ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นม็อบสีอื่น กรณีนี้จึงไม่ใช่เรื่องประหลาด
แต่ฝ่ายที่ไม่พอใจกล่าวหาว่าตำรวจใช้ความรุนแรงกับนายสุวิทย์ จะวิธีคิดตามสไตล์ว่า เมื่อนายสุวิทย์เป็นคนดีต่อสู้เพื่อความถูกต้องในทัศนะของคนเป่านกหวีด ดังนั้นนายสุวิทย์จะต้องได้รับเกียรติอย่างสูงจากเจ้าหน้าที่
ถ้าตีตราว่าเป็นคนดีตามทัศนะของคนพวกนี้แล้ว ต้องดีทุกประการ!?!
ไม่ต้องฟังข้อหาและไม่ต้องดูพยานหลักฐานใดๆ ตัดสินเอาเองว่านายสุวิทย์ต้องเป็นฝ่ายถูกต้อง
บ้างก็แสดงทัศนะเหยียดหยามคนต่างจังหวัด และ ไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริงของพื้นที่ไฟใต้ ทำนองว่าต้องย้ายตำรวจชุดนี้ไป 3 จังหวัดใต้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวตนที่แสดงกันมาตลอด
ไม่เคารพเสียงคนส่วนใหญ่ ไม่เอาการเลือกตั้งที่คนต่างจังหวัดมีสิทธิเสียงเท่ากับชนชั้นสูงในเมืองหลวง
ลงเอยก็เลยล้มประชาธิปไตย โดยมีนายสุวิทย์เป็นผู้นำอันยิ่งใหญ่ดุจราชสีห์แจ้งวัฒนะ!
