“วงค์ ตาวัน”
แทบจะไม่เหลือช่องทางในการพิสูจน์คดี 99 ศพแล้วหรือ!? ความยุติธรรมในบ้านเมืองเรา ยังคงอยู่ในวังวนเดิมๆ ไม่แปรเปลี่ยนเลยใช่ไหม!!
แต่ก็ยิ่งจะกลายเป็นคำถาม การชัตดาวน์ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำมาสู่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะทหารชุดเดียวกันกับช่วงที่เกิดเหตุสลายม็อบปี 2553
กับความเป็นไปของคดี 99 ศพในวันนี้!!!
ก่อนหน้านี้ คดี 99 ศพได้ตกไปจากศาลอาญา ด้วยการต่อสู้ในประเด็นเทคนิคทางข้อกฎหมายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
โดยอ้างว่า ตนเองโดนกล่าวหาในฐานะนายกฯ และรองนายกฯ ดังนั้นต้องเป็นกระบวนการไต่สวนของป.ป.ช. ถ้ามีมูลต้องส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองต่อไป
นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ต่อสู้ว่า ไม่ถูกต้องที่มายื่นฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญา
ต่อมาศาลมีคำตัดสินว่า คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลอาญาจริงๆ ต้องเป็นการไต่สวนของป.ป.ช.
มาล่าสุดป.ป.ช.ก็สรุปแล้วว่า ไม่สามารถรื้อคดีนี้ใหม่ได้
ตกไปจากป.ป.ช.อีก!?!
เท่ากับว่า การเข่นฆ่าคนในใจกลางเมืองร่วมร้อยศพ มีภาพถ่าย มีคลิป เป็นพยานหลักฐานมากมายว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำตามคำสั่งศอฉ. ได้ใช้อาวุธจริง กระสุนจริง ลงมือยิงจริงๆ
โดยมีคำสั่งศาลชี้ผลไต่สวนชันสูตรศพ สรุปไปแล้ว 17 ศพว่า ตายด้วยกระสุนปืนจากเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นสิ่งที่รองรับชัดเจน!
แต่มาบัดนี้ เหตุการณ์คนถูกฆ่าตาย 99 ศพ กลับไม่สามารถอยู่ในกระบวนการยุติธรรมเลย แทบทุกช่องทาง
จะไม่ให้ความเป็นธรรมเลยสักนิดหรือ!?
เอาเถอะ แกนนำนปช. รวมทั้งญาติมิตรของคนตาย ยังคงยืนยัน เรียกหาความเป็นธรรมต่อไปในทุกช่องทางกฎหมายเท่าที่เป็นไปได้
ที่อ้างว่า ศอฉ.ทำไปโดยมีคำสั่ง มีข้อกฎหมายรองรับ เพราะการชุมนุมปี 2553 ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ
อ้างว่า มีผู้ก่อการร้ายปะปนในม็อบ จึงสามารถใช้อาวุธจริงกระสุนจริงได้
อ้าว แล้วทั้ง 99 ศพ เป็นประชาชนมีชื่อเสียงเรียงนาม ไม่มีแม้แต่ศพเดียวที่เป็นชายชุดดำ!
อย่างนี้ ไม่ได้ทำผิดพลาดหรือ ไม่มีสำนึกรับผิดชอบเลยหรือ
ก็ไม่เป็นไร ต้องเดินหน้าพิสูจน์ความจริงต่อไป ต้องมีคนรับผิดชอบให้ได้
ในสำนวนคดีมีชื่อยศเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ ที่ถูกสอบปากคำ และรับว่ายิงจริง หลายราย
การค้นหาความจริงจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ย่อมเป็นช่องทางเดินคดีต่อไปได้บ้าง!
