“วงค์ ตาวัน”
ระยะนี้มีคดีคนร้ายบุกชิงเงินในธนาคาร หรือชิงทองในร้านขายทองบ่อยมากขึ้น มีทั้งใช้อาวุธปืน ไปจนถึง ก่อเหตุด้วยมือเปล่า อาจจะด้วยความหน้ามืดเพราะปัญหาเศรษฐกิจ อันเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ด้วยพิษการเมืองที่ไม่ปกติ
หรืออาจจะมาจากหนี้พนันบอลโลก ตามที่คาดกันเอาไว้ แม้ตำรวจจะกวาดล้างโต๊ะพนันบอลได้มากมายในช่วงเวิลด์คัพ แต่ก็คงมีการลักลอบเล่นอยู่ รวมทั้งสาเหตุอื่นๆ
แต่ทุกคดี ตำรวจสืบสวนแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ทำให้ได้ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้ชัดเจน
ยิ่งลงมือปล้นธนาคารในห้างสรรพสินค้า ชิงทองในร้านทองตามห้าง
ยิ่งมีโอกาสจะโดนกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้มาก
เนื่องจากห้างสรรพสินค้าต่างๆ วางระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดอย่างหนาแน่น!
ยิ่งได้ตำรวจที่เชี่ยวชาญสืบจากวงจรปิด สามารถไล่ภาพจนเห็นตัวคนก่อเหตุได้ทุกมุม เห็นตั้งแต่เดินเข้าห้าง เดินมาก่อเหตุ จนกระทั่งหนีไปอย่างไรทางไหน
เมื่อนำภาพนั้นมาเผยแพร่ผ่านสื่อ จะส่งผลกดดัน หรือทำให้คนที่รู้จักมักคุ้นช่วยชี้เบาะแสได้อีกทาง
ดังเช่นกรณีชิงสร้อยคอทองคำ 2 เส้น มูลค่า 210,900 บาท จากร้านทองในห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน เมื่อปลาย เดือนก่อน
เมื่อภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายได้ มีการเผยแพร่ออกสื่อ เห็นชัดเป็นชายวัยรุ่นหน้าตาดี เพียงไม่กี่วันแม่ของเด็กหนุ่มวัย 17 ตัดสินใจพาลูกเข้ามอบตัวกับตำรวจพร้อมกับรับสารภาพ
ต้องการเงินไปซื้อคอร์สเสริมความงามให้กับตนเอง
จะเห็นได้ว่ากล้องวงจรปิดเป็นเครื่องสำคัญในยุคนี้ ทั้งการป้องกันอาชญากรรม และแกะรอยหาคนร้าย
ร้านค้า หรือบ้านเรือนต่างๆ ที่ล่อแหลม คงจำเป็นต้องลงทุนติดตั้ง!
แต่ลำพังกล้องวงจรปิดอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าเรามีตำรวจระดับปฏิบัติ มีสายตรวจตระเวนไปทั่วอย่างถี่ยิบ เหมือนในหลายประเทศที่มีการทุ่มเทงบประมาณเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้าน
โจรผู้ร้ายจะลดลงไปมากกว่านี้ หรือถ้าลงมืออาจจับได้อย่างทันทีทันควัน ถ้ามีตำรวจตรวจตราอยู่ย่านนั้นพอดี
จึงต้องบอกว่า การปฏิรูปตำรวจ ต้องคิดถึงชาวบ้าน
ถ้าเอาความปลอดภัยประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องเพิ่มตำรวจสายงานด้านป้องกันปราบปรามและสืบสวน
อาจไปลดตำรวจหน่วยลอยๆ ลดนายพลลง แต่ต้องเพิ่มที่โรงพัก
ที่ผบช.น.เพิ่งเสนอเพิ่ม 11 สน.ในนครบาล นี่แหละถูกจุดที่สุด
ปฏิรูปตำรวจ ต้องทำให้ตำรวจรับใช้ประชาชนได้เต็มกำลังมากกว่านี้
ไม่ใช่เน้นแต่จะไปลดอำนาจ มุ่งผ่าหั่นโดยไม่ยึดความจริง!
