“วงค์ ตาวัน”
คดีสลายม็อบพันธมิตรฯเมื่อ 7 ตุลาคม 2551 ได้มาถึงจุดสรุปอีกครั้ง เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาอุทธรณ์ โดยพิพากษายืนให้ยกฟ้อง พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น. จบสิ้นคดีที่ต่อสู้มานับสิบปี
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 ไปแล้ว
ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. รวมทั้งพล.ต.ท.สุชาติ
ต่อมาป.ป.ช.ได้ยื่นอุทธรณ์ เฉพาะกรณีพล.ต.ท.สุชาติ ในฐานะผบ.เหตุการณ์ ในที่สุดก็มีคำพิพากษายืนตามเดิมที่ยกฟ้องไปแล้ว
แน่นอนว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดสำหรับ 7 ตุลาฯ ที่มีผู้ร่วมชุมนุมเสียชีวิต 2 ราย
แต่ก็ยังเป็นปมปริศนา เพราะแก๊สน้ำตาไม่เคยทำให้คนตาย!?!
ที่สำคัญปฏิบัติการสลายม็อบในครั้งนี้ รัฐบาลและตำรวจปฏิบัติตามหลักสากล คือ ใช้ตำรวจปราบจลาจลและแก๊สน้ำตา ไม่ได้ใช้ทหารพร้อมกระสุนจริงเหมือน 99 ศพ ปี 2553
ขณะเดียวกันสาระสำคัญในคำพิพากษากล่าวเอาไว้ว่า
การใช้แก๊สน้ำตาเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อควบคุมฝูงชนเท่านั้น ไม่ใช่ใช้เพื่อเล็งเห็นผลที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งในหลายประเทศก็นิยมใช้กัน และไม่ปรากฏว่ามี ผู้เสียชีวิต
การกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและร่างกายของผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ เมื่อย้อนไปดูคำพิพากษาครั้งแรก ได้กล่าวถึงการใช้แก๊สน้ำตาว่า
แม้มีพยานโจทก์และพยานจำเลยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแก๊สน้ำตา มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับผลอันเกิดจากการใช้แก๊สน้ำตา
แต่ในสถานการณ์เช่นนั้น เป็นการยากสำหรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะทราบว่า แก๊สน้ำตาจะเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต!!
ในขณะเกิดเหตุ จำเลยไม่อาจคาดเห็นได้ว่า แก๊สน้ำตาจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ชุมนุมได้
และข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่า จำเลยมีเจตนาพิเศษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำร้ายผู้ชุมนุมให้ได้อันตรายแก่กายและเสียชีวิต
จากถ้อยความในคำพิพากษาดังกล่าวข้างต้น ถ้าเอามาแปลง่ายๆก็ได้ว่า
คงไม่มีใครคิดทำให้คนอื่นเจ็บตายด้วยการใช้แก๊สน้ำตายิง!!
แต่ 7 ตุลา 51 ก็ทำให้ผู้นำรัฐบาลและตำรวจ ต้องโดนคดี ต้องต่อสู้มานานนับสิบปี กว่าจะพ้นมลทิน
ทั้งที่ใช้แก๊สน้ำตา และตายปริศนา 2 ราย
แต่ 2553 ใช้ทหารและกระสุนจริง ตายถึง 99 ศพ
ป่านนี้การใช้กระสุนจริง ยังไม่มีคดีทั้งในป.ป.ช. และในระบบยุติธรรมของประเทศไทย!?!!!
