ต้องรีบลดกระแส เอารัดเอาเปรียบ : ชกไม่มีมุม
ต้องรีบลดกระแส เอารัดเอาเปรียบ – กระแสการเอารัดเอาเปรียบในการเลือกตั้ง เหมือนจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวบ้านหนาหูมากขึ้น หลังจากที่การเมืองเข้าสู่ช่วงกำหนดวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
ดังนั้นการตัดสินใจลาออกของ 4 รัฐมนตรี ซึ่งมีตำแหน่งสำคัญในพรรคพลังประชารัฐ
จึงถือว่า คงช่วยลดกระแสดังกล่าวข้างต้นนี้ ให้ทุเลาเบาบางลงไปได้บ้าง
ส่วนหนึ่งเพราะสถานะของรัฐบาลคสช. ยังเป็นรัฐบาลเต็มตัว ไม่ใช่เป็นแค่รัฐบาลรักษาการ เหมือนในช่วงก่อนเลือกตั้ง เหมือนรัฐบาลในอดีตที่ผ่านๆ มา
คงจำกันได้ว่า สมัยก่อน เมื่อประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง พร้อมประกาศวันเลือกตั้งออกมาแล้ว จากนั้นรัฐบาลจะมีสภาพเป็นแค่รักษาการไปในทันที
คือ ไม่สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมาย
เพื่อไม่ให้มีความได้เปรียบทางการเมืองเหนือพรรคอื่น โดยการอาศัยอำนาจรัฐในมือ!
แต่กติกาการเมืองในยุคนี้ เขียนเอาไว้ให้รัฐบาลคสช. มีอำนาจเต็ม เหมือนรัฐบาลปกติ แถมหัวหน้าคสช.ยัง กุมดาบม.44 ในมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ตอนเขียนกฎกติกาเช่นนี้ ก็คงเพื่อให้รัฐบาลคสช. ยังทรงอำนาจ ทำให้ยังมีความน่าเกรงขาม หวังควบคุมสถานการณ์ในช่วงก่อนเลือกตั้งให้สงบราบคาบได้
แต่จุดแข็งนี่แหละ ที่กลายเป็นจุดอันตราย กลายเป็นจุดบอด!!
ทำให้รัฐบาลนี้ถูกจับตามองและวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนัก แล้วกลายเป็นแรงกดดันสู่ 4 รัฐมนตรี จนวันนี้ตัดสินใจลาออกแล้ว ก็คงลดกระแสลงไปได้
แต่ถัดจากนี้ เมื่อไม่มี 4 รัฐมนตรีแล้ว แรงกดดันก็คงพุ่งไปที่นายกฯ แทน!
ดังนั้นก็คงเชื่อได้ว่า การประกาศส่งเทียบเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นว่าที่นายกฯ หมายเลข 1 ของบัญชีพรรคพลังประชารัฐ คงทอดยาวออกไปให้นานที่สุด
แต่ก็ไม่น่าจะเกิน 8 กุมภาพันธ์ วันสุดท้ายของการ รับสมัครผู้ลงเลือกตั้ง และยื่นบัญชีว่าที่นายกฯ
ถึงวันนั้นอะไรจะเกิดขึ้น ต้องจับตามองกันต่อไป
ถ้าเปิดออกมาแล้วมีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ใน บัญชีพรรคพลังประชารัฐจริงๆ ก็ต้องเตรียมรับกับเสียงเรียกร้องให้ลาออกที่คงกระหึ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อได้เลยว่า เรื่องลาออกก่อนแบบ 4 รัฐมนตรี เป็นไปไม่ได้
แต่นั่นแหละ จุดแข็งบางทีก็เป็นจุดอันตราย
เสียงวิพากษ์วิจารณ์การเอารัดเอาเปรียบ การใช้อำนาจรัฐ จะกลับเป็นหอกที่หันมาทิ่มแทงใส่
เรื่องอย่างนี้ ละเอียดอ่อนไม่น้อยเลย สำหรับสังคมไทย
ที่มีการยกตัวอย่างสถานการณ์เลือกตั้งเมื่อ ปี 2554 ขึ้นมาเปรียบเทียบ ถือว่าเป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด
คนมีอำนาจมาก คงใช้อำนาจมาก
ลงเอยต้องกินน้ำใบบัวบก อันเป็นคำฮิตในวันนี้ ไปแล้ว!
