จึงไม่น่าแปลกใจที่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผู้คนจะเข้าไปอยู่กันเต็มห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าใหญ่ยักษ์

อยู่กันเนืองแน่นตลอดทั้งวัน แช่เย็นกันอยู่ในนั้น ไม่ต้องไปไหนกันเลย จนอาทิตย์ตกดิน อุณหภูมิลดลง แล้วค่อยกลับเข้าบ้าน

จนกระทั่งมีการสร้างประเด็นกันในโซเชี่ยลว่า เห็นคนเดินกันเต็มห้าง ร้านอาหารเต็มล้นไปหมด

แล้วทำไมยังพูดกันอยู่ได้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี

ทำเอาฮากันไปทั่วเมือง!

เพราะศูนย์การค้าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ในการหลบ ลมร้อน ขับรถเข้าไปจอดได้ ใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งวัน เดินดู ข้าวของแบบดูเฉยๆไม่ต้องซื้อก็ได้ มีอาหารกิน 3 มื้อ โดยไม่ซ้ำร้าน ไปจนถึงความบันเทิงอย่างโรงภาพยนตร์ก็มีครบถ้วน

กลายเป็นว่าเลือกเข้าห้างในเดือนเมษายน อาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า

ประหยัดค่าไฟที่บ้าน ที่คอนโดฯ หอพัก ได้ดีที่สุด

คนเต็มห้าง จึงไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจดี ผู้คนมีกำลังซื้อสูง อะไรแบบนั้นแน่ๆ

แล้วเอาเข้าจริงสภาพเงินทองในกระเป๋าชาวบ้านเป็น เช่นไร

เหตุการณ์ฆ่ายกครัวเพื่อหนีปัญหาหนี้สิน ไปจนถึงคดีปล้นจี้ชิงทรัพย์ น่าจะอธิบายได้!

เมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดคดีสลด หนุ่มเจ้าของร้านติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ ซึ่งมีปัญหาทำมาค้าขายฝืดเคือง ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ แล้วโดนตามทวงทุกวันจนเครียดหนัก

สุดท้ายปาดคอฆ่าลูกเมีย 3 ศพ แล้วพยายามฆ่าตัวตายตามไป แต่มีคนมาช่วยเอาไว้ได้ทัน ลงเอยผู้เป็นพ่อที่ลงมือก่อเหตุก็ต้องติดคุกติดตะรางไป

หรืออีกราย นั่งรถแท็กซี่แล้วโดนโชเฟอร์ใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ต่อมาตำรวจตามจับแท็กซี่โจรได้ เพราะคงไม่ใช่มืออาชีพเลยไม่มีการอำพรางอะไร

เจ้าทุกข์จำรถได้ พาตำรวจชี้จุดเกิดเหตุ แล้วพอตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ตามจับได้ทันควัน

ลงเอยเป็นเพียงลูกชายของแท็กซี่ตัวจริง ที่เอารถพ่อออกไปขับแล้วหน้ามืดก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้โดยสาร

ให้การว่า กำลังจะเปิดเทอมแล้ว ต้องหาเงินไปซื้อชุดนักเรียนให้กับลูกตัวเอง!!

เศรษฐกิจเราตกหนักมาตลอด 5 ปีแล้ว จนวันนี้ดูการเมืองยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย

ทั้งที่มีเลือกตั้งแล้วควรจะคลี่คลาย แต่เพราะพยายามล็อกการเมืองจนติดหล่ม

เราก็เลยต้องอยู่กับบรรยากาศร้อนๆ ทั้งอากาศ การเมืองและเศรษฐกิจปากท้องต่อไป!

โดย..วงค์ ตาวัน