คดีเขย่าสังคมคนดี กักขังหน่วงเหนี่ยวจนตาย
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
คดีเขย่าสังคมคนดี กักขังหน่วงเหนี่ยวจนตาย – การจับกุมดำเนินคดี “น้ำอุ่น” หนุ่มนายแบบ พริตตี้บอย ในข้อหาทำให้พริตตี้สาว “ลันลาเบล” ถึงแก่ความตาย ทำให้คดีดังที่ผู้คนสนใจทั่วบ้านทั่วเมืองมาถึงจุดสำคัญอีกขั้นหนึ่ง หลังจากที่จดจ่อกับข่าวใหญ่นี้มาร่วมสัปดาห์ เป็นอันว่าทุกอย่างชัดเจนขึ้น และมีการตั้งข้อหาดำเนินคดีแล้ว
เป็นเรื่องน่าสนใจว่า หลังจากตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน และผลพิสูจน์ทางการแพทย์อย่างรอบด้านแล้ว
แม้จะไม่ใช่การลงมือฆ่าอย่างชัดเจนเหมือนคดีอื่นๆ คนก่อเหตุไม่ได้โกรธแค้นวางแผนสังหารเหยื่อ!
แต่พฤติกรรมที่นำตัวหญิงสาวที่อยู่ในอาการหมดสติและในสภาพโคม่า ออกจากงานปาร์ตี้เพื่อนำไปยังที่พักในคอนโดฯ
ด้วยเป้าหมายซ่อนเร้น
แทนที่เห็นว่าอาการไม่ดี มีความผิดปกติ ต้องนำไปส่งครอบครัวญาติพี่น้อง หรือส่งโรงพยาบาล
รวมทั้งยังอุ้มและลากร่างหญิงสาวไปกับพื้นราวกับวัตถุสิ่งของ
จากนั้นแบกร่างมาทิ้งไว้กับโซฟา ล็อบบี้คอนโดฯ อย่างไม่สนใจไยดี หลังจากได้รับการติดต่อจากเพื่อนของเหยื่อเพื่อมารับตัว
จนมาพบเป็นศพไร้ลมหายใจในเวลาต่อมา
จากจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ พบพริตตี้ตายปริศนา ต่อมาความจริงก็ค่อยคลี่คลาย
สุดท้ายก็มาถึงการตั้งข้อหาดำเนินคดี จากพฤติกรรมที่นำหญิงสาวที่ช็อกหมดสติ มากักขังหน่วงเหนี่ยว จนสิ้นใจตาย
เป็นคดีตัวอย่าง ที่แปลกใหม่ ให้ได้เรียนรู้ และเตือนสติ!
นั่นคือการทำให้คนตาย ด้วยการหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ ก็เป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย
แม้ว่าจากพยานหลักฐาน ยังไม่ปรากฏว่ามีการมอมยา หรือการล่วงละเมิดทางเพศชัดเจน แต่การมอมเหล้าด้วยปริมาณที่มากเกินไป จนทำให้ช็อกสิ้นสติ มีผลต่อระบบประสาท ระบบการหายใจ
รวมทั้งยังเอาตัวไปที่พักคอนโดฯ ไม่นำส่งแพทย์ ลงเอยกลายเป็นการทำให้คนตาย กลายเป็นความผิดร้ายแรง
เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ!
รวมทั้งทำให้ทั้งสังคมได้รับรู้ด้านมืดของแวดวงนักปาร์ตี้ ที่โยงใยถึงเรื่องการตอบสนองทางเพศ
รู้ถึงชีวิตของหญิงสาวในอาชีพเอ็นเตอร์เทน ที่เต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยง
ทั้งที่เราอยู่ในยุครัฐบาลที่เน้นควบคุมเข้มงวด ต่อต้านการพัฒนา ขัดขวางเสรีนิยม มีนายกฯ มาสั่งสอนคุณธรรมความดีทุกวี่วัน
เชิดชูสังคมคนดีมีศีลธรรมมา 5 ปี แล้วก็เดินแนวทางนี้ต่อในวันนี้
ไม่ใช่การแก้ปัญหาและตามไม่ทันโลกที่ไปไกลแล้ว!