อาชญากรรมยุคโควิด ตำรวจต้องรู้ทัน

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

อาชญากรรมยุคโควิด ตำรวจต้องรู้ทัน – เห็นข่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ออกคำสั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ ตรวจสอบและจับกุมแก๊งเงินกู้นอกระบบ ขูดดอกเบี้ยมหาโหด ซึ่งเอารัดเอาเปรียบประชาชนอย่างจริงจัง เป็นมาตรการเร่งด่วน

เห็นด้วยอย่างมากว่า ตำรวจต้องเร่งจัดการปัญหานี้จริงๆ

กำลังเป็นเรื่องเฉพาะหน้า ที่กระหน่ำซ้ำเติมชาวบ้านในสถานการณ์ที่ต้องเก็บตัว และไม่มีรายได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะคลี่คลายเมื่อไร

เมื่อไม่มีเงินทองใช้จ่าย ก็ต้องกลายเป็นเหยื่อแก๊งปล่อยกู้นอกระบบ

นี่คือการเอารัดเอาเปรียบ ฉ้อโกงชาวบ้าน ในภาวะที่ยากลำบากด้วยภัยโรคระบาด

แล้วจะตามมาด้วยอาชญากรรมที่ต่อเนื่อง การอุ้มซ้อมลูกหนี้ หรือบีบบังคับให้ไปก่อคดีอื่นเพื่อหาเงินมาใช้หนี้

ถือว่า ผบ.ตร.มองออกว่า อะไรคือภัยเร่งด่วนที่ตำรวจต้องสกัดกั้นควบคุม!

แต่ที่ตำรวจทำก็แค่ปลายเหตุ

ที่ต้องแก้ต้นเหตุคือรัฐบาล จะเยียวยา 5 พันบาทได้ทั่วถึงกว่านี้ จะคลายล็อกกิจการร้านค้า ได้เร็วหรือไม่

เศรษฐกิจ รายได้ประชาชน ต้องคลี่คลายให้เร็ว

สภาพสังคมที่เปลี่ยนไป จากมาตรการต่างๆ ในการหยุดยั้งโควิด ยังส่งผลให้การก่อคดีต่างๆ ก็เปลี่ยนไปด้วย

ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว การล็อกสถานประกอบการ คุมเวลาในยามวิกาล ทำให้การปล้นจี้ชิงทรัพย์ ต้องปรับเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม!

ที่แน่ๆ ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ลดการเป็นเป้าของอาชญากรลงไปได้มากโข

แต่เหล่าอาชญากร ไปจนถึงคนที่ไม่มีกิน อาจดิ้นรนในทางที่ผิด ซึ่งจะต้องมีมากขึ้นอีกด้วย ยังต้องมองหาเป้าหมายอื่นๆ

จึงน่าเป็นห่วง คดีฉกชิงวิ่งราว กระชากกระเป๋า กระชากสร้อย อะไรเหล่านี้ เป็นกลุ่มคดีที่ตำรวจคงต้องรับมือกันต่อไป

ยังดีที่ตำรวจในยุคบิ๊กแป๊ะ ยังน่าเกรงขามในเรื่องการสืบจับปราบปราม!!

โดยเฉพาะผบ.ตร.มาสายมือปราบ ลงลุยภาคสนามเอง จนเป็นที่ชื่นชมของชาวบ้าน

เหลืออีก 5 เดือนจะครบเกษียณ ก็ยังลุยตรวจด่านยังติดดิน คงเป็นที่ประทับใจประชาชนจนถึงวันลาตำแหน่งเลยทีเดียว

เอาเป็นว่าในภาวะโควิด ที่คดีอาชญากรรมก็คงปรับเปลี่ยน หวังว่าตำรวจจะยังเป็นที่พึ่งพิงไว้ใจได้

แต่ก็นั่นแหละ ถึงที่สุดนโยบายจากรัฐ ในการคลี่คลายเศรษฐกิจ แก้คนอดอยากไม่มีกิน ให้ทันเวลา

จะลดปัญหาอาชญากรรมได้ดีที่สุด!