“วงค์ ตาวัน”

จากคลิปซึ่งบันทึกโดยกล้องติดหน้ารถยนต์ กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกโซเชี่ยล เมื่อเห็นชายคนหนึ่งเตะใส่เด็กวัย 4 ขวบจนหงายหลังล้มตึงกลางฟุตปาธ อย่างไม่มีเหตุมีผล ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เร่งแกะรอยสืบหาตัว จนสามารถจับกุมตัวได้แล้ว

ปรากฏว่า เป็นหนุ่มป่วยจิต ซึ่งเคยก่อเหตุใช้ความรุนแรง และเคยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้านนี้มาแล้ว

ตอนนี้ก็คงต้องเร่งนำตัวไปเยียวยารักษาอาการป่วยกันอีกหน

รวมทั้งจะต้องดูแลแก้ไข ไม่ให้มีปัญหาขาดยา ขาดการรักษา จนอาการกำเริบ

แล้วมาเตะเด็กหรือทำรุนแรงอะไรขึ้นมาอีก!?

คดีนี้น่าสนใจว่า การติดตามจับกุมคนที่สติไม่ปกติมาสอบสวนดำเนินคดีนั้น จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานประกอบที่รอบคอบ เพื่อยืนยันได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

เพราะลำพังการสอบปากคำคนที่มีอาการไม่ปกติ เช่นนี้ คงจะยากในการได้ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องเป็นราวเป็นระบบ

ยังดีที่สังคมในยุคนี้ เต็มไปด้วยกล้อง

ไม่ว่าจะกล้องหน้ารถยนต์ของประชาชนทั่วไป กล้องวงจรปิดตามท้องถนนของทั้งหน่วยงานราชการ และของเอกชนตามอาคารห้างร้าน

อย่างรายหนุ่มก่อเหตุประหลาด เตะเด็กดื้อๆ รายนี้

เริ่มต้นจากกล้องหน้ารถยนต์ ที่นำมาเผยแพร่ ในออนไลน์ เพื่อให้ช่วยกันตามหาชายคนนี้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนเริ่มเห็นการปรากฏตัวในพื้นที่อื่นๆ เช่น ขึ้นรถเมล์ไปลงที่ไหนอย่างไร

สุดท้ายเมื่อไปตามเจอตัวที่ฉะเชิงเทรา ก็สามารถเทียบใบหน้ารูปร่างจากภาพในวงจรปิดจุดต่างๆ ได้แน่นอน!

เป็นอันได้ตัวไม่ผิดคน

จะได้นำตัวไปรับการรักษาให้ถูกต้องต่อไป ไม่ใช่ปล่อยให้เดินไปไล่เตะใครอีก

จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน เคยมีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ซึ่งกำลังโบกรถอยู่กลางถนน แล้วถูกคนที่พยานเห็นว่า เป็นคนสติไม่ดีแต่งตัวมอมแมม ย่องเข้าไปกระชากปืนจากเอว

เมื่อตำรวจพยายามไปขอปืนคืนก็ถูกยิงใส่จนเสียชีวิต

คดีนั้น มีการตามจับคนจรจัดสติไม่ดีมาหลายราย แต่ขาดหลักฐานยืนยัน จนทำอะไรไม่ได้

ยังดีที่ยุคนี้มีกล้องมากมายบันทึกยืนยันเป็นหลักฐาน

แต่ขณะเดียวกัน ที่พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เร่งรัดตำรวจทุกสน.

ให้ตรวจสอบทำประวัติคนจรจัดในทุกท้องที่

เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยควบคุมป้องกันปัญหา โดยไม่ทำอย่างละเมิดสิทธิของเขาเกินไป!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน