“วงค์ ตาวัน”

ไม่รู้ว่า นี่คือการอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมของคำว่า”ประชาธิปไตยไทยนิยม”ใช่หรือไม่ หมายถึงประชาธิปไตยที่ไม่ต้องยึดหลักอะไรให้เป็นจริงเป็นจัง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแต่สมควร ตามลักษณะไทยๆ นั่นคือ เต็มไปด้วยการยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องยึดกติกาใดๆ ให้เป็นเรื่องเป็นราว

โดยรูปธรรมล่าสุดของประชาธิปไตยไทยนิยม อาจจะได้แก่ การขยับวันเลือกตั้งออกไปอีก ไปเป็น ปี 2562!

ดังนั้น การจะอธิบายเหตุผลว่า ทำไมจึงเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปข้ามปี ย่อมสามารถสรุปได้ง่ายๆ ด้วยถ้อยคำที่เข้าใจได้ตรงกันก็คือ

ก็นี่คือประชาธิปไตยไทยนิยมไง

ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ผู้มีอำนาจเต็มเปี่ยม ประกาศด้วยตัวเอง เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาว่า

จะมีการประกาศวันเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน 2561 โดยวันเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561!!

คนทั่วประเทศและนานาชาติก็ยึดถือวันนี้เป็นมั่นเหมาะ

ยิ่งในสายตาชาวโลก ยิ่งยึดถือเป็นจริงเป็นจัง

โดยก่อนหน้านั้นไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปเยือนสหรัฐ ได้พบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐ

จากนั้นมีแถลงการณ์ร่วม 2 ประเทศ ระบุชัดเจนว่า สหรัฐยินดีที่ไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งในปี 2561

ต่อมาก็มีอียู ที่ประกาศฟื้นความสัมพันธ์กับไทย โดยอ้างอิงถึงการเลือกตั้งในปี 2561 ซึ่งจะทำให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา

ทั้งไทยและเทศ ล้วนปักใจกันไปหมดแล้วว่า เลือกตั้ง 2561 แน่ๆ

วาดภาพว่า ประชาธิปไตยปกติจะคืนสู่ประเทศนี้ ทำให้ฝรั่งตะวันตกทั้งหลาย ไม่ต้องมีท่าทีรังเกียจหรือปิดกั้นใดๆ อีกต่อไป

ส่วนคนไทยเราเอง ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจการค้าโดยตรง ก็โล่งอก เพราะถ้าการเมืองเข้าสู่ระบบปกติ มีการเลือกตั้งปกติ ปัญหาปากท้องจะคลี่คลายไปอย่างมาก

ตลอดปี 2560 ที่ผ่านมา จึงมีความหวังเต็มเปี่ยมกับ ปี 2561

แต่ก็มีคนไทยอีกบางส่วน ที่ไม่เคยเชื่อเลยว่าคำสัญญาจะไม่ยืดไม่หดได้

เพราะโรดแม็ปเลือกตั้งประกาศแล้วเลื่อนมาแล้วหลายรอบ!

ทีแรกก็ว่าจะเลือกตั้งปลายปี 2558 หรือต้นปี 2559 ต่อมาก็ขยับไปสิงหาคม 2559

จากนั้นก็ว่า น่าจะกลางปี 2560 ถัดมาก็ว่าปลายปี 2560 หรือราวปี 2561

จนกระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ประกาศเองว่า พฤศจิกายน 2561 แต่ตอนนี้ก็ไปประมาณกุมภาพันธ์ 2562 แล้ว

มีคำถามว่า แล้วจะเชื่อหรือไม่

ที่แน่ๆ คงไม่ต้องอธิบายความหมายของประชาธิปไตยไทยนิยมกันอีกแล้วใช่ไหม!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน