“วงค์ ตาวัน”
สวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลื่อนเวลาการเลือกตั้ง พบว่าเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ ต้องการให้เลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตย รวมทั้งไม่อยากให้เลื่อนเลือกตั้ง เพราะกระทบต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ
แม้จะมีเสียงอีกส่วนเห็นด้วยกับการเลื่อนวันเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลต่างๆ แต่ก็เป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า!!
ผลโพลที่ออกมาเช่นนี้ ฝ่ายความมั่นคงน่าจะสนใจนำไปขบคิดวิเคราะห์
หรือไม่ก็ลองออกหาข่าวตามชุมชน วงกาแฟ บทสนทนาตามตรอกซอกซอย
จะพบว่า คนส่วนใหญ่รู้ดีว่า การไม่กลับคืนสู่ประชาธิปไตย จะมีผลกระทบมากมาย เช่น เศรษฐกิจ การค้า ปากท้องประชาชน
หรือแม้แต่คำว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ไม่ได้หมายความว่า ห่วงเรื่องหน้าตา หรือห่วงแต่เสียงของคนต่างชาติ
แต่มันหมายถึงว่า คนทั่วโลกเขาจะรังเกียจไม่คบค้า ซึ่งมีผลต่อการถูกปิดล้อมหรือกีดกันหลายด้าน
ทำไมเขาถึงรังเกียจ ก็เพราะการไม่มีเลือกตั้ง ซึ่งแปลว่า บ้านเมืองนั้น กำหนดความเป็นทางการเมืองโดยคนกลุ่มเดียว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีส่วนร่วม
บ้านเมืองที่เป็นแบบนี้ ทั่วโลกเขารับไม่ได้ คล้ายพม่าในยุครัฐบาลทหาร หรือสังคมเกาหลีเหนือในวันนี้ และอีกหลายชาติที่เผด็จการล้าหลัง
ดังนั้นพิจารณาจากผลโพลข้างต้น หรือจากอารมณ์ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในวันนี้
ล้วนตระหนักดีว่า เราจำเป็นต้องมีเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ยันธุรกิจรายได้
ส่วนคนไทยบางส่วน ที่ยังเชียร์ให้รัฐบาลทหารปกครองต่อไป เลือกตั้งช้าก็ได้
ส่วนหนึ่ง อาจเพราะถูกสะกดจิตให้ชิงชังการเมือง ให้เชื่อว่าบ้านเมืองเราที่วุ่นวาย เพราะนักการเมืองชั่วเป็นต้นเหตุ
ถูกครอบงำ จนลืมแยกแยะไปว่า ความรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการจงใจสร้างหรือไม่!?
จุดสำคัญที่สุด ปัจจัยชี้ขาดให้คนไทยส่วนหนึ่งต้องการหรือไม่ต้องการเลือกตั้งนั้น
คือจิตวิญญาณเสรีชน และความเชื่อมั่นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องมีส่วนร่วมทางการเมืองและการเมืองจะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนด้วยมือประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ระบบที่ทุกอย่างกำหนดโดยคนหยิบมือเดียว
จึงต้องย้ำว่า มีแต่คนไทยที่ไม่ใช่พวก?ทาสที่ปล่อยไม่ไป?
จึงเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องเป็นผู้กำหนด การเมือง
ตรงนี้ต่างกับคนที่คิดว่า ประชาชนยังโง่ ไม่ควรมีส่วนร่วมไม่ควรมีเลือกตั้ง
เห็นประชาชนโง่แล้วยังไงต่อ!
ก็ให้ทหารปกครองดีกว่า ให้ทหารเป็นผู้พัฒนาประชาธิปไตยสิ
คิดประหลาดพิลึกพิลั่นสิ้นดี!
