พรรคประชาธิปัตย์ ตกอยู่ในช่วงที่มีมรสุมกระหน่ำรอบทิศ เกิดข่าวส.ส.หรือแกนนำพรรคลาออก ที่เรียกกันว่าเลือดไหลทะลัก
ถือเป็นช่วงสำคัญ ในการพิสูจน์ตัวเองของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคที่เป็นกำลังหลัก และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค
จะยืนหยัดท่ามกลางพายุที่พัดโหมกระหน่ำได้หรือไม่
มีข้อเท็จจริงที่บ่งบอกว่า มรสุมโถมถล่มนั้น มาจากทิศไหนบ้าง
พรรคร่วมรัฐบาลที่ประกาศเจาะจังหวัดอันดามัน ประการหนึ่ง
สำคัญสุดคือ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำท่าจะโยกย้ายพรรค จากพลังประชารัฐ มาสู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของแกนนำกปปส. ม็อบนกหวีด!
พรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้า
แต่จุดที่ต้องจับตาคือ มีเงาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมด้วยแกนนำกปปส.มาเข้าร่วมคับคั่ง
จุดนี้แหละที่จูงใจให้พล.อ.ประยุทธ์ มีแนวโน้มย้ายพรรค
ความผูกพันระหว่างกปปส.กับพล.อ.ประยุทธ์ นับจากการ ปูทางให้ขี่รถถังเข้าทำเนียบ ยังไม่เสื่อมคลาย
ไม่เท่านั้น เป้าหมายของพรรคนี้คือ เอาประยุทธ์ มาชู เพื่อยึดเสียงเลือกตั้งในภาคใต้ ทำให้กระทบกับประชาธิปัตย์หนักหน่วง!
เพราะวันนี้ ภาคใต้เป็นภาคที่ยังขายชื่อพล.อ.ประยุทธ์ได้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังฝังใจ เกลียดชังทักษิณ ชินวัตร
อาจจะเรียกได้ว่าเหลือภาคนี้ที่ยังเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเชื่อว่าจะต้านทักษิณได้
นี่เองจึงทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความหวัง น่าจะได้ส.ส.จากภาคใต้พอสมควร และจำเป็นต้องดึงพล.อ.ประยุทธ์ มาเข้าพรรคนี้ให้ได้
ผลตามมาก็คือ กระทบกับประชาธิปัตย์เต็มๆ และกระทบพลังประชารัฐบางส่วน
แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าประชาธิปัตย์ตั้งหลักให้ดี ยืนยันความเป็นพรรคที่เป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ
ทั้งเป็นพรรคที่แนบแน่นกับคนใต้มายาวนาน
รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงผลงานในการดูแลพืชผลทางเกษตร เช่น ราคาปาล์ม ราคามัน ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ยังน่าจะ ยืนหยัดดึงคะแนนเสียงปักษ์ใต้ได้ต่อไป
รวมทั้งได้รู้ว่า ใครกันที่กำลังก่อมรสุมกระหน่ำใส่ประชาธิปัตย์ในวันนี้ พรรคร่วมรัฐบาลหนึ่ง พรรคที่เพิ่งเกิดใหม่และดึงพล.อ.ประยุทธ์ไปร่วมอีกหนึ่ง!!
คนกันเองทั้งนั้น
ทำให้น่าคิดว่า การแสดงท่าทีที่แหลมคมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงปลายมากๆ นี้ ก็อาจเป็นทางออกที่เรียกคะแนนนิยมกลับคืนมาได้หรือไม่!
วงค์ ตาวัน
