“วงค์ ตาวัน”
ความตื่นตัวของคนทั้งสังคมในวันนี้ ทำให้กระแสอนุรักษ์ธรรมชาติ สัตว์ป่า แผ่กว้างไปทั่ว และ ส่งผลต่อคดีล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จนเชื่อได้ว่า กระบวนการดำเนินคดีคงยากจะบิดเบนได้
แม้ว่าผู้ต้องหาจะเป็นเจ้าสัวระดับหมื่นล้าน
เมื่อเห็นท่าทีตำรวจ ทั้งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ลงมาดูแลคดี ทั้งพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ฝ่ายปราบปราม
ต่างยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีอิทธิพลใดๆ มาแทรกแซงคดีนี้ได้ รวมทั้งได้เห็นการตรวจสอบพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด
คงทำให้ทั้งสังคมสบายใจได้!
กระแสหวงแหนในป่าไม้สัตว์ป่าของคนวงกว้างใน วันนี้ เป็นเรื่องดี และควรยกระดับให้เกิดบรรทัดฐานที่ดีในสังคมไทย
ไม่ใช่แค่เสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรที่สะเทือนใจกัน
ควรรวมถึงสัตว์ป่าตัวเล็กตัวน้อยทุกชนิด ป่าทุกป่า
ชีวิตคนก็เหมือนกัน
จากทุ่งใหญ่นเรศวร ที่คนไทยให้ความใส่ใจใน ขณะนี้ ไม่ไกลกันนัก เป็นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี
ย้อนไปเมื่อปี 2554 เจ้าหน้าที่รัฐบุกเข้ารื้อถอนหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยง บ้านโป่งลึก-บางกลอย ซึ่งอยู่มายาวนานหลายชั่วอายุคน
มีภาพหลักฐานความเสียหายมากมาย ไฟโชนเผาไหม้บ้านและยุ้งฉาง!
บิลลี่หรือพอละจี รักจงเจริญ หนุ่มกะเหรี่ยงที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เป็นแกนนำและกุมหลักฐานฟ้องร้องเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน
ขณะที่คดีกำลังดำเนินไป บิลลี่ก็หายตัวไปในเดือนเมษายน 2557
หัวหน้าอุทยานฯ ขณะนั้นยอมรับว่า เป็นผู้ควบคุมตัว นายบิลลี่ไป เนื่องจากพบน้ำผึ้งป่า แต่ได้ปล่อยตัวไป หลังจากนั้น
ปล่อยอย่างไร ไม่มีใครรู้ แต่หายไปจนบัดนี้จะครบ 4 ปีแล้ว น่าเชื่อว่าจะไม่มีวันได้กลับมาพบพ่อแม่พี่น้องและลูกเมียอีกตลอดกาล
ขณะที่มีนักวิชาการ สื่อ รายงานเรื่องราวกะเหรี่ยงพื้นที่นี้ว่า มีวิถีชีวิตปกป้องป่ามาตลอด!
แต่คนสำคัญคือบิลลี่ต้องหายสาบสูญไป
เรื่องราวที่ป่าแก่งกระจาน ชีวิตผู้นำกะเหรี่ยง ก็มีคุณค่าต้องใส่ใจ
เหมือนคนตาย 99 ศพในใจกลางเมืองหลวง ในเหตุการณ์ชุมนุมการเมือง แล้วถูกปราบด้วยกระสุนจริง จนวันนี้คดีไม่คืบหน้า
ก็เป็นชีวิตผู้คนที่มีลูกเมียญาติพี่น้องรอคอยความยุติธรรม อย่างไม่มีวันลืมเลือนไม่หยุดทวงถาม
ความตื่นตัวของคนไทยในวันนี้ น่าจะนำไปสู่บรรทัดฐานการให้ความสำคัญกับทุกชีวิตที่ถูก เข่นฆ่า!