“วงค์ ตาวัน”

มีคำคมของบุคคลสำคัญในวงการสื่อมวลชนโลกที่กล่าวเอาไว้ว่า “หนังสือพิมพ์ คือร่างแรกของบันทึกประวัติศาสตร์” หมายความว่าทุกข่าวที่หนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนนำเสนออย่างสดๆ ร้อนๆ นั้น อาจจะขาดความสมบูรณ์บางส่วนไป อาจจะยังไม่ครบถ้วนในบางประเด็น

แต่ด้วยข้อเท็จจริงที่สื่อนำเสนอ ก็คือบันทึกเริ่มต้น ก่อนจะพัฒนากลายเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ศึกษานั่นเอง

ดังนั้น ใครก็ตามที่มีบทบาทอยู่ในเหตุการณ์สำคัญๆ แล้วปรากฏชื่อเสียงเรียงนามอยู่ใน”ร่างแรกของบันทึกประวัติศาสตร์”

สุดท้ายชื่อนั้นก็จะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้คนได้จดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน

แล้วคุณจะเลือกให้ได้รับการจารึกชื่อ ด้วยฐานะอะไร ฝ่ายไหน จุดยืนเพื่อใคร!?!

เหตุการณ์การเมืองไทยในระยะนี้ ถือเป็นช่วงการต่อสู้อย่างรุนแรงระหว่าง ฝ่ายที่เชื่อในเสรีประชาธิปไตย กับฝ่ายที่เชื่อในการเมืองแบบถอยหลังแนวอนุรักษนิยม

ยิ่งถ้ามีเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นจุดหักเหที่สำคัญของบ้านเมือง

ในวันข้างหน้าประวัติศาสตร์คงบันทึกเอาไว้ว่า

ใครบ้างที่เป็นฝ่ายสนับสนุนการก่อรัฐประหารเพื่อล้มประชาธิปไตย

ใครบ้างที่ยืนหยัดอยู่ข้างอำนาจของประชาชน ไม่ยอมรับวิธีการที่ให้คนหยิบมือเดียวเข้ามาควบคุมการบริหารบ้านเมือง!

การรัฐประหารทุกครั้ง ในช่วงระยะแรก อาจจะมีประชาชนบางส่วนโห่ร้องดีใจ มอบดอกไม้ให้ทหารบนรถถัง

ยกตัวอย่าง เหตุการณ์รสช.เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534 มีคนหลงใหลในช่วงเริ่มแรก ลงเอยคือขับไล่!!

ถัดมาปีเดียว คนออกมาเต็มท้องถนนเพื่อตะเพิดรัฐบาลทหารรสช. จนกลายเป็นพฤษภาทมิฬ 2535

อาจจะกล่าวได้ว่า ทุกการรัฐประหารไม่ว่าในไทยเราหรือในโลกนี้ ลงเอยไม่เคยมีบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับไหน ที่จะจารึกอย่างชื่นชมยินดี

เพราะการรัฐประหาร เป็นการยึดอำนาจจากรัฐบาลปกติ เป็นการเริ่มต้นด้วยวิธีการไม่ปกติ แล้วจะมาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เจริญงอกงามไปข้างหน้าได้อย่างไร

บรรดาคนที่ได้ดิบได้ดีเพราะร่วมสนับสนุนขัดถูท็อปบู๊ต อาจมีความสุขสบายในวันนี้ เพราะมีผลตอบแทนที่งดงาม ยกระดับฐานะชีวิตความเป็นอยู่ และรับประกันอาชีพการงานได้ดี

แต่สุดท้ายก็ได้รับการจารึกชื่อในฐานะคนร่วมแอบอิงอำนาจนอกระบบที่ล้มรัฐบาลประชาธิปไตย

ส่วนคนที่ไม่ยอมรับการรัฐประหาร ต้องถูกควบคุมตัว ถูกปรับทัศนคติ กระทั่งถูกตั้งข้อหาจองจำ ชีวิตอาจยากลำบากในวันนี้

แต่ชื่อเสียงเรียงนามจะเด่นสง่าในบันทึกประวัติศาสตร์

สำหรับชื่อของ สมชัย ศรีสุทธิยากร ที่เริ่มแรกอาจจะดูสับสน ไม่ทำหน้าที่กกต.เพื่อจัดเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ให้ลุล่วง

แต่วันนี้เมื่อถูกอำนาจมาตรา 44 ของรัฐบาลทหาร จัดการปลดพ้นกกต.

ก็มีชื่อปรากฏในฝักฝ่ายที่สง่างาม!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน