ฟังการอภิปรายในสภา วาระงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ดูแล้วโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงพอสมควร
ทำนองว่าจะสร้างภาระเงินกู้ให้กับประเทศไปอีกยาวนาน เบียดบังงบฯ อื่นๆ เพื่อทุ่มให้โครงการเดียว ไม่เชื่อมั่นว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้รวดเร็วรุนแรงเป็นพายุหมุนได้จริง!?
แต่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ได้ลุกขึ้นมาชี้แจงข้ออภิปรายวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายค้าน อย่างไม่ถอย ไม่ถอดใจ
อย่างน้อยท่าทีของนายกฯ และรัฐมนตรีที่ดูแลโครงการ ทำให้ชาวบ้านสบายใจกันได้
ยังยืนยันหนักแน่นว่า ปลายปีนี้ แจกจ่ายถึงประชาชนราว 50 ล้านคนได้แน่นอน
ทั้งเน้นว่าจะทำให้ประชาชนมีเงินทองสำหรับจับจ่ายสินค้าจำเป็นในชีวิต ทั้งจะส่งผลให้ร้านค้าคึกคักไปทุกระดับ!!
รัฐบาลย้ำว่า ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แจกให้ประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ราว 50 ล้านคนนั้น
จะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่และกระจายไปยังพื้นที่ทั่วประเทศ
ไม่กระจุกแค่ในกทม.และเมืองใหญ่เท่านั้น เพราะกำหนดการใช้จ่ายในเขตอำเภอตามทะเบียนบ้าน
เอาเป็นว่า มีหลายมุมมองต่อดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นปกติธรรมดาของทุกสังคม มีความเห็นต่าง มีทัศนะที่แตกต่าง ด้วยจุดยืนที่ต่างกัน
เพียงแต่เมื่อรัฐบาลยืนยันว่า เดินหน้าไม่มีเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความรู้สึกโล่งอกโล่ใจของประชาชนในวงกว้าง!!
ไม่แค่ชาวบ้านที่ฝืดเคืองจะได้เงินเข้ากระเป๋า 1 หมื่นเพื่อใช้จ่าย สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า หมายถึง จะมีกำลังซื้อสินค้าระลอกใหญ่
ตอนนี้ชาวบ้านพากันนั่งคิดว่าจะซื้ออะไรที่จำเป็นในครอบครัว ส่วนร้านค้าก็พากันคิดโปรโมชั่น รับเงิน 1 หมื่นอย่างจูงใจที่สุด
เป็นธรรมดา สำหรับชาวบ้านและร้านค้าที่กำลังฝันหวาน
ความฝันนั้นอยู่แค่เอื้อมแล้ว กำลังจะเข้าไตรมาส 3 เริ่มลงทะเบียนแล้ว คงไม่อยากให้ฝันสลาย!?!
แน่นอนว่า พรรคฝ่ายค้านมีหน้าที่ต้องตรวจสอบ ต้องชี้ช่องโหว่ช่องบกพร่อง นำเสนอมุมมองอีกด้าน เพื่อปกป้องเงินงบประมาณของประเทศ ให้ใช้จ่ายอย่างเหมาะสม
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นเป็นเรื่องใหญ่มากๆ จำเป็นต้องโดนตรวจสอบอย่างมาก
สำหรับรัฐบาล เมื่อยืนยันว่าโครงการนี้ ไม่มีถอย ก็ต้องรับฟังข้อท้วงติงที่ถูกจุด เพื่อนำไปปรับแก้
แต่เมื่อโครงการยังไปต่อ ความระทึกของชาวบ้าน ระหว่างการถกเถียงร่างพ.ร.บ.งบประมาณในสภา ก็เริ่มคลี่คลาย
ปลายปีนี้จะได้รู้กันว่า ประชาชนได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ร้านค้าต่างๆ ได้ประโยชน์แค่ไหน
เศรษฐกิจที่กำลังร่อแร่ จะได้รับการกระตุ้นครั้งใหญ่จริงหรือไม่!?
วงค์ ตาวัน