คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของตลาดสมาร์ตโฟนในไทยได้รับปัจจัยผลักดันหลักมาจากการเปลี่ยนผ่านเทคโน โลยีการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่บนโครงข่าย 2G สู่โครงข่าย 3G/4G ประกอบกับการแข่งขันทำการตลาดอย่างเข้มข้นของกลุ่ม ผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั้งรายเก่าและรายใหม่ และกลุ่มผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่นิยมทำการตลาดด้วยการจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่พ่วงแพ็กเกจการใช้งานบริการข้อมูลด้วยราคาที่คุ้มค่า
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่ที่นิยมเข้าใช้อินเตอร์เน็ตบนสมาร์ตโฟน ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อเข้าถึงสื่อโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก หรือเข้าใช้กิจกรรมบันเทิงออนไลน์ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นต่างๆ
จึงทำให้ยอดขายสมาร์ตโฟนในไทยในช่วงเวลาดังกล่าวขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยมากกว่า 10.0% ต่อปี ส่งผลให้ในปัจจุบันผู้บริโภคไทยสามารถเข้าถึงสมาร์ตโฟนได้ราว 75.0% ของประชากรทั้งหมด
มองว่าในปี 2560 ตลาดสมาร์ตโฟนในไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการที่อาจทำให้การขยายตัวไม่โดดเด่น โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ไม่มีปัจจัยสนับสนุนทางด้านการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสื่อสารใหม่ๆ เกิดขึ้น ดังเช่นการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เทคโนโลยี 2G มาสู่ 3G/4G ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
คาดว่าจำนวนสมาร์ตโฟนที่ขายได้ในปี 2560 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 17.2-17.4 ล้านเครื่อง ขยายตัวในกรอบแคบราว 1.8-2.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากปี 2559 ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงราว 8.3% จากปี 2558
ขณะที่มูลค่าตลาดสมาร์ตโฟนไทยจะมีมูลค่าประมาณ 96,550-97,950 ล้านบาท ขยายตัว 3.0-4.5% จากปี 2559 ที่คาดว่าจะขยายตัวราว 5.0% จากปี 2558
อย่างไรก็ดี การแข่งขันทำการตลาดอย่างเข้มข้นของกลุ่มผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั้งรายเก่าและรายใหม่ รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการโทรคมนาคม นับว่าเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนตลาดสมาร์ตโฟนในไทยในปี 2560 ให้ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมุ่งเน้นทำการตลาดอย่างจริงจังของกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีน เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ตโฟนในไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2560 สมาร์ตโฟนจากจีนน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในไทยมากกว่า 30.0% ของจำนวนยอดขายสมาร์ตโฟนในไทยทั้งหมด เพิ่มขึ้นราวหนึ่งเท่าตัวจากปี 2558 ที่สมาร์ตโฟนจากจีนมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 15.0%
